อสังหา-แบงก์เตรียมเฮ! ธปท.ปลดล็อกLTVวันนี้ สั่งผ่อนเกณฑ์ตั้งสำรองฯสินเชื่อบ้าน
Loading

อสังหา-แบงก์เตรียมเฮ! ธปท.ปลดล็อกLTVวันนี้ สั่งผ่อนเกณฑ์ตั้งสำรองฯสินเชื่อบ้าน

วันที่ : 20 มกราคม 2563
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์-แบงก์พาณิชย์เตรียมเฮ แบงก์ชาติเตรียมแถลงปลดล็อก มาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือ LTV วันนี้ (20 ม.ค.) ด้านคลังสุดเซอร์ไพรส์ให้มากกว่าที่ขอไป คาดวางเงินดาวน์บ้านหลังที่ 2 เหลือประมาณ 5-10% จากเดิม 10-20%
          กลุ่มอสังหาริมทรัพย์-แบงก์พาณิชย์เตรียมเฮ แบงก์ชาติเตรียมแถลงปลดล็อก มาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือ LTV วันนี้ (20 ม.ค.) ด้านคลังสุดเซอร์ไพรส์ให้มากกว่าที่ขอไป คาดวางเงินดาวน์บ้านหลังที่ 2 เหลือประมาณ 5-10% จากเดิม 10-20% ชี้ AP, SPALI ได้ประโยชน์มากสุด พร้อมเพิ่มผ่อนเกณฑ์ตั้งสำรองของแบงก์ที่ปล่อยกู้ให้ลดลงด้วย จับตา SCB–TMB โล่งทันที ด้านนายแบงก์ตีปีกมั่นใจช่วยตลาดอสังหาฯฟื้นดันสินเชื่อพุ่ง ขณะที่โบรกฯมองส่งผลดีต่อกลุ่มอสังหาฯและแบงก์อย่างมีนัยสำคัญ

          นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เห็นชอบต่อการผ่อนคลายมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย (loan to value: LTV) แล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแบงก์ชาติจะชี้แจงในรายละเอียดต่อไป หลังจากที่ก่อนหน้านี้คลังได้หารือร่วมกับธปท.ในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นฟันเฟืองตัวสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยที่ผ่านมา

          รายงานจากกระทรวงการคลัง คาดว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยจะแถลงข่าวเรื่องการผ่อนเกณฑ์ LTV วันนี้ (20 ม.ค.) หลังจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินที่มีตัวแทนกระทรวงการคลังเข้าร่วมประชุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเห็นชอบแล้ว

          ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวนักวิเคราะห์ต่างมีมุมมองว่าจะส่งผลดีต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ให้กลับมาคึกคักขึ้น โดยคาดว่าการผ่อนคลายเกณฑ์การวางเงินดาวน์ให้ลดลงในบ้านหลังที่ 2 เหลือประมาณ 5-10% จากเดิม 10-20% นอกจากนี้กลุ่มธนาคารจะได้รับผลดีจากการลดตั้งสำรองสินเชื่อบ้านลงด้วย ทำให้แบงก์กล้าตัดสินใจปล่อยกู้เพิ่มมากขึ้น

          ด้านนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. กล่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยแล้ว โดยดีกว่าที่คลังขอไว้ครั้งแรก ซึ่งเบื้องต้นจะผ่อนคลายให้กับบ้านหลังแรกด้วย จากเดิมที่ต้องวางเงินดาวน์บ้านหลังแรก 0-10% แต่เกณฑ์ใหม่อาจไม่ต้องวางเงินดาวน์เลย

          ส่วนบ้านหลังที่ 2 เดิมวางดาวน์ 10% กรณีผ่อนบ้านหลังแรกมาแล้วเกิน 3 ปี และต้องวางเงินดาวน์ 20% กรณีผ่อนบ้านหลังแรกมาไม่ถึง 3 ปี จะมีการปรับลดเงินดาวน์ลง ขณะที่แบงก์ชาติมีมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม โดยลดภาระการตั้งสำรองให้กับแบงก์พาณิชย์ที่ปล่อยกู้ให้ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ให้แบงก์ชาติเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียด รวมทั้งกรณีที่บ้านราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป บ้านหลังแรกและหลังที่สองด้วย ขณะที่บ้านหลังที่ 3 ขึ้นไป ที่ต้องวางเงินดาวน์ 30%

          “แบงก์ชาติทำเซอร์ไพรส์ให้มากกว่าที่เราขอ นอกจากลดเงินดาวน์บ้านหลังที่ 2 แล้วยังช่วยผ่อนคลายการตั้งสำรองให้แบงก์ที่ปล่อยกู้สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ให้ด้วย” ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าว

          นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวยอมรับว่า ตั้งแต่ ธนาคารแห่งประเทศไทยออกเกณฑ์ควบคุม LTV เป็นต้นมา การปล่อยกู้บ้านหลังที่ 2 ของแบงก์ก็ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก จากยอดในช่วงที่ผ่านมาลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากแบงก์ชาติผ่อนคลายเกณฑ์แล้ว ก็เชื่อว่าตลาดฯ จะกลับมาคึกคักขึ้น

          นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาถือเป็นปีแห่งการปรับฐานของตลาดที่อยู่อาศัยจากการใช้เกณฑ์ LTV ใหม่ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2562 ส่งผลให้กดดันตลาดอสังหาริมทรัพย์พอสมควร ทำให้ตลาดบ้านสัญญาที่ 2 ทั้งแนวราบและแนวสูงลดลงถึง 14%

          ทั้งนี้หลัง ธปท.ผ่อนเกณฑ์ แล้วเชื่อว่า ยอดซื้อบ้านสัญญาที่ 2 จะกลับมาเป็นบวกได้ประมาณ 2% รวมถึงยอดการเติบโตของสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีโอกาสกลับมาเติบโตจากช่วงปีก่อนด้วย

          ด้านนายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน-กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS กล่าวว่า กรณีที่แบงก์ชาติจะผ่อนเกณฑ์คุมสินเชื่อบ้านหลังที่ 1 และ 2 นั้นจะส่งผลเชิงบวกต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มแบงก์โดยตรง

          สำหรับกลุ่มอสังหาฯ มองว่า AP, SPALI จะได้ประโยชน์มากสุด เนื่องจากมีโครงการอยู่ในมือพร้อมขายจำนวนมาก ขณะที่กำลังซื้อในตลาดยังคงมีความต้องการสูง แต่ติดปัญหาเรื่องของเกณฑ์ LTV ทำให้แบงก์ไม่ปล่อยกู้ ส่วนกลุ่มแบงก์จะได้ประโยชน์จากการปล่อยกู้บ้านเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ชะลอตัวลงจากมาตรการ LTV

          นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า หากมีการผ่อนคลายเกณฑ์คุมสินเชื่อบ้านและลดการตั้งสำรองจะส่งผลดีต่อกลุ่มแบงก์ โดยเฉพาะแบงก์ไทยพาณิชย์ หรือ SCB และแบงก์ทหารไทย หรือ TMB ที่มีพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง

          บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า จะเป็นบวกต่อกลุ่มอสังหาฯ และก่อนหน้านี้ก็มีโครงการบ้านดีมีดาวน์ ซึ่ง SPALI น่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวมากสุด