ธปท.ยอมแล้วผ่อนเกณฑ์กู้บ้านแต่ยังปราม!สัญญาณหนี้เสียพุ่ง
Loading

ธปท.ยอมแล้วผ่อนเกณฑ์กู้บ้านแต่ยังปราม!สัญญาณหนี้เสียพุ่ง

วันที่ : 22 มกราคม 2563
ธปท.ผ่อนเกณฑ์กู้บ้าน LTV 3 ข้อ เพิ่มวงเงินให้กู้บ้านหลังแรกเพื่อช่วยตกแต่ง-ซื้อเฟอร์นิเจอร์ อีก 10% ทั้งในส่วนมูลค่าบ้านสูงกว่าและต่ำกว่า 10 ล้านบาท ลดเวลาผ่อนบ้านหลังแรกก่อนกู้สัญญาที่ 2 รวมทั้งลดอัตรากันสำรองสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้แบงก์ แต่ยังจับตาไม่กะพริบเพราะหนี้เสียกู้บ้านพุ่งไม่เลิก
          ธปท.ผ่อนเกณฑ์กู้บ้าน LTV 3 ข้อ เพิ่มวงเงินให้กู้บ้านหลังแรกเพื่อช่วยตกแต่ง-ซื้อเฟอร์นิเจอร์ อีก 10% ทั้งในส่วนมูลค่าบ้านสูงกว่าและต่ำกว่า 10 ล้านบาท ลดเวลาผ่อนบ้านหลังแรกก่อนกู้สัญญาที่ 2 รวมทั้งลดอัตรากันสำรองสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้แบงก์ แต่ยังจับตาไม่กะพริบเพราะหนี้เสียกู้บ้านพุ่งไม่เลิก

          นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงินกล่าวว่าระบบการเงินไทยยังมีความเสี่ยงต่อเนื่องโดยมีทั้งความเสี่ยงที่สูงขึ้นและลดลง โดยความเสี่ยงหลักในระยะต่อไปยังคงมี 4 ด้านคือ หนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง พฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนสูงโดยไม่มีการพิจารณาความเสี่ยงที่เหมาะสม ความเสี่ยงในการดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์ และความเสี่ยงจากการปล่อยกู้ในภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งทั้ง 4 ด้านยังเป็นความเสี่ยงที่จะต้องติดตามดูแลต่อไปในอนาคต

          อย่างไรก็ตาม ในส่วนของมาตรการเพิ่มวงเงินดาวน์ในการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือ LTV นั้น แม้ขณะนี้ ธปท.ยังไม่ยกเลิกมาตรการเนื่องจากยังเห็นความเสี่ยงในบางกรณี เช่น การกู้ซื้ออาคารชุดติดต่อกัน 2 สัญญาในเวลาไม่เกิน 1 ปี ซึ่งยังคงมีสูงและยังแสดงถึงการเก็งกำไร แต่ในส่วนของคนที่กู้ซื้อบ้านสัญญาแรกและผู้ที่แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการซื้อบ้านจริงโดยไม่เก็งกำไรนั้นทำให้เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมาในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ร่วมกับคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) ได้มีการผ่อนคลายมาตรการ LTV ในบางส่วน โดยเกณฑ์ที่ปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.ประกอบด้วย

          1.ในส่วนของการกู้ซื้อบ้าน สัญญาแรก ซึ่งเกณฑ์ของ ธปท.ให้กู้ได้เต็มหลักประกัน หรือ 100% อยู่แล้ว ในช่วงที่ผ่านมา มีผู้กู้จำนวนมากที่ต้องการสินเชื่อเพิ่มเติมเพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์หรือตกแต่งบ้านแต่ต้องไปกู้ในส่วนของสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยสูงนั้น ธปท.จึงได้ผ่อนคลายให้ผู้กู้รายเดิม สามารถกู้เงินเพิ่มได้อีก 10% ของราคาบ้าน (หลักประกันเดิม) ในอัตราดอกเบี้ยเดียวกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย แต่เป็นการแยกสัญญากู้ออกมาต่างหาก ซึ่งจะช่วยให้ผู้กู้สามารถมีบ้านพร้อมตกแต่งเข้าอยู่ได้ในครั้งเดียว

          2.ในส่วนของการกู้สัญญาที่ 2 ธปท.มองว่าผู้กู้สัญญาที่ 2 บางราย อาจมีความจำเป็นในการกู้ซื้อบ้านหรือคอนโดฯ เพิ่มเป็นหลังที่ 2 จริงโดยไม่ได้กู้เพื่อเก็งกำไรทำให้ ธปท.ได้ผ่อนคลายในส่วนสัญญาที่ 2 เพิ่มเติม จากเดิมกรณีผู้กู้ที่กู้ซื้อที่อยู่อาศัยสัญญาที่ 1 และผ่อนชำระมาแล้วระยะหนึ่งและจะกู้ซื้อบ้านหลังที่ 2 ตามเกณฑ์ LTV เดิมผู้กู้จะต้องผ่อนชำระสัญญาแรกครบ 3 ปี ถึงจะสามารถกู้สัญญาที่ 2 โดยวางเงินดาวน์เพียง 10% เกณฑ์ใหม่ ธปท.ลดเวลาการผ่อนชำระลงเหลือ 2 ปี อย่างไรก็ตามหากผู้กู้ที่ผ่อนบ้านหลังแรกไม่ถึง 2 ปี หากต้องการกู้เพื่อบ้านหลังที่ 2 ยังต้องวางดาวน์ 20% เพื่อป้องกันการกู้เพื่อเก็งกำไร

          3.ในกรณีผู้กู้สัญญาแรก สำหรับบ้านที่มีมูลค่ามากกว่า 10 ล้านบาท ธปท.ลดวงเงินดาวน์ลง 10% จากเกณฑ์เดิม ต้องวางเงินดาวน์ 20% โดยปล่อยกู้ได้เพิ่มขึ้นเป็น 90% ของมูลค่าหลักประกัน โดย 10% ที่เพิ่มขึ้นนั้น ธปท.พิจารณาจากความจำเป็นในการตกแต่งหรือซื้อเฟอร์นิเจอร์เช่นเดียวกับบ้านสัญญาแรกที่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท โดยมองว่าการซื้อสัญญาแรกเป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงมากกว่าเก็งกำไร นอกจากนี้ ธปท.ยังได้ปรับหลักเกณฑ์เงินกองทุนที่ต้องดำรงของธนาคารพาณิชย์ กรณีสินเชื่อกู้ซื้อบ้านหลังแรกต่ำกว่า 10 ล้านบาท และกู้สร้างบ้านบนที่ดินปลอดภาระจากเดิมคิดน้ำหนักความเสี่ยงที่จะต้องดำรงเงินทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ 75% ลดลงเหลือ 35%

          "ทั้งนี้ ที่ผ่านมาแม้ว่าจะใช้มาตรการ LTV แต่สินเชื่อที่อยู่อาศัยเฉพาะในส่วนของธนาคารพาณิชย์ 11 เดือนแรกยังสามารถเติบโตได้ 10.8% โดยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแนวราบยังเติบโตได้ 17.8% ขณะที่สินเชื่อที่อยู่อาศัยแนวสูงเติบโตลดลง 5% อย่างไรก็ตาม จากการประเมินของ ธปท. แนวโน้มสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในปีนี้ยังคงเพิ่มขึ้นโดยคาดว่าผลจากการผ่อนคลายมาตรการ LTV ในครั้งนี้ จะช่วยให้การปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นได้อีกประมาณ 5% จากที่เป็นอยู่"

          รองผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า หลังจากผ่อนะคลายมาตรการในครั้งนี้ ธปท.ยังคงต้องติดตามการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยต่อเนื่อง เพราะล่าสุดตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของสินเชื่อบ้านยังสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดในเดือน พ.ย. อยู่ที่ 3.7% ของสินเชื่อที่อยู่อาศัยรวม ขณะที่เวลาของการขายหมดของโครงการอาคารชุดล่าสุดครึ่งปีแรกของปี 2562 ยังคงเพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ย 21 เดือน จากการขายหมด 18 เดือนในปี 2561
 
ข่าวนโยบายการเงิน-การคลัง อื่นๆ