10ทำเล รับทุนอสังหาฯเปิดหน้าดินรอผังเมืองใหม่
Loading

10ทำเล รับทุนอสังหาฯเปิดหน้าดินรอผังเมืองใหม่

วันที่ : 18 กุมภาพันธ์ 2563
นับเป็นการเปลี่ยนแปลงผังเมืองครั้งใหญ่ อีกครั้งของการพัฒนากรุงเทพมหานคร เมื่อมีการปรับเปลี่ยนผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่4) จากผังเมืองรวมล่าสุดที่ประกาศใช้ตั้งแต่ปี2556เป็นการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกันกับแนวทางการพัฒนา ระบบขนส่งมวลชน และแผนแม่บท
        ประกายดาว แบ่งสันเทียะ
        กรุงเทพธุรกิจ
        นับเป็นการเปลี่ยนแปลงผังเมืองครั้งใหญ่ อีกครั้งของการพัฒนากรุงเทพมหานคร เมื่อมีการปรับเปลี่ยนผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่4) จากผังเมืองรวมล่าสุดที่ประกาศใช้ตั้งแต่ปี2556เป็นการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกันกับแนวทางการพัฒนา ระบบขนส่งมวลชน และแผนแม่บท การพัฒนาเมืองในอนาคต ซึ่งในปี2563 เป็นขั้นตอนของการปรับปรุงผังครั้งที่4 นำเสนอต่อคณะกรรมการที่ปรึกษาผังเมืองรวมกรุงเทพฯ กรมโยธาธิการและผังเมืองของอนุกรรมการผังเมืองจังหวัด กรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการผังเมืองจังหวัด กรุงเทพมหานคร จากนี้จะมีการปิดประกาศให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียยื่นคำร้องภายใน90วันในช่วงกลางปี จากนั้นจะเสนอคำร้องต่อคณะกรรมการพิจารณาโดยจะประกาศใช้ภายในปี 2564
        ชูขวัญ นิลศริ ผู้อำนวยการสำนักวางผังเมือง กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่าการพัฒนา อสังหาริมทรัพย์ ที่มีกำหนดประกาศใช้ในปี2564 เกิดการเพิ่มศักยภาพการใช้ประโยชน์จากที่ดินใน10ทำเล ประกอบด้วย
        1.บริเวณวิภาวดีรังสิต ถนนแจ้งวัฒนะมีการปรับรองรับรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อรังสิต) และสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ปรับจากที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย (ย.3)เป็นหนาแน่นปานกลาง (ย.7)
        2.ถนนพหลโยธิน แจ้งวัฒนะ รามอินทรา ปรับจากย.6 เป็น ย.9และ พาณิชยกรรม5เพื่อรองรับรถไฟฟ้าสายสีเขียว และสีชมพู
        3.วิภาวดีรังสิต พหลโยธิน รัชดาภิเษก เขตจตุจักร เชื่อมต่อสถานีรถไฟสายสีแดง, สีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และสีเขียว (หมอชิต-คูคต) มีการปรับจากพื้นที่อาศัยหนาแน่นกปานกลาง(ย.7)เป็นหนาแน่นมาก (ย.13) ที่มีการขยายการใช้ที่ดินจาก อัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน (Floor Area Ratio-FAR)จากFAR5เป็นFAR7เท่า
        4.บริเวณ ถนนรามอินทรา ประดิษฐ์มนูธรรม นวมินทร์ เสรีไทย รามคำแหง และลาดพร้าว เพื่อรองรับการใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แครายมีนบุรี), สายสีน้ำตาล (แคราย-บึงกุ่ม), สาย สีเทา (วัชรพล-ท่าพระ), สายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยมีนบุรี) และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) มีการปรับจาก ย.4 เป็น ย.6 โดยมีการปรับFARจาก 3 เป็น 3.5 เท่า
        5.บริเวณศูนย์ชุมชนเมืองมีนบุรี เพื่อรองรับการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและ สายสีส้ม โดยมีการปรับจากที่อยู่อาศัย หนาแน่นปานกลาง (ย.6) เป็นพื้นที่ พาณิชยกรรม (พ.5) ขยายจาก FAR4.5 เป็น FAR 7เท่า เพื่อต้องการให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจในย่านนั้น(CBD)ในย่านนั้น เพราะเป็นจุดตัดรถไฟฟ้าสายสีส้มและสายสีชมพู ที่จะจะมีศักยภาพในการบริการชุมชนในบริเวณนั้น
        6.บริเวณผังที่ต่อเนื่องจากศูนย์กลางการคมนาคมมักกะสัน ถนนรัชดาภิเษก สุขุมวิท เพื่อรองรับการขยายตัวของย่านพาณิชยกรรมศูนย์กลางรอง จึงปรับเปลี่ยนจาก ที่อยู่อาศัย (ย.9-ย.10) มาเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์(พ.7) ซึ่งมีการปรับจากFAR7-8เป็น8ทั้งโซนเพื่อรองรับการขยายพื้นที่ย่านพาณิชยกรรมเป็นศูนย์กลางธุรกิจรองจากใจกลางเมือง
        7.บริเวณถนนศรีนครินทร์ มีการปรับเพื่อรองรับการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลือ ง (ลาดพร้าว-สำโรง) ในเขตสวนหลวง จากพื้นที่อยู่อาศัย(ย.4) เป็น ย.7 ที่จะเพิ่ม FAR 3 เป็น FAR 4
        8.บริเวณถนนศรีนครินทร์และถนนบางนา-ตราด เพื่อรองรับการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) มีการปรับจากที่อยู่อาศัย ย.7เป็น พ.5 มีการปรับFAR 5เป็นFAR 7เท่า
        9.บริเวณศูนย์ชุมชนชานเมืองลาดกระบัง เพื่อส่งเสริมการเป็นศูนย์ชุมชนชานเมือง ด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ มีการปรับจากที่อยู่อาศัย จากย.3เป็น ย.7จึงปรับจากFAR 2.5เป็น จากFAR4เท่า
        10.พื้นที่บริเวณตลิ่งชัน ทวีวัฒนา และบางแค ที่มีการปรับเพื่อรองรับการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย),สายสีเขียว (บางหว้า-คูคต), สายสีแดง (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) ทำให้เกิดการพัฒนาศูนย์กลางชุมชนชานเมืองตลิ่งชัน จึงมีการปรับจากพื้นที่เกษตรกรรม ก.2 เป็น ย.1,3,6,7 ขึ้นอยู่กับบางทำเล โดยมีการปรับจาก FAR 1 เป็นFAR2, 3.5,4
        สำหรับการปรับปรุงผังเมืองในครั้งนี้ยังจะเพิ่มโบนัสอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน(FAR Bonus)ให้กับโครงการที่มี การจัดพื้นที่เพื่อเปลี่ยนถ่ายสัญจรบริเวณสถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน และจัดให้มีพื้นที่ว่างเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือ สวนสาธารณะริมแม่น้ำ หรือแหล่งน้ำสาธารณะ รวมถึงการจัดให้มีสถานที่รับเลี้ยง เด็กหรือดูแลผู้สูงอายุ จะเพิ่มให้อีก20%
        นอกจากนี้ยังกำหนดให้โครงการขนาดใหญ่ ประกอบด้วย พื้นที่ประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย (ย.1-ย.5) ไม่น้อยกว่า 100 ไร่ หรือพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่น ปานกลาง (ย.6-ย.10) ไม่น้อยกว่า50ไร่, การใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัย 5 หนาแน่น (ย.11-ย.15) ไม่น้อยกว่า20ไร่ รวมถึงการใช้ประโยชน์จากพาณิชยกรรม (พ.3-พ.8) ไม่น้อยกว่า20ไร่ซึ่งโครงการขนาดใหญ่เหล่านี้สามารถเพิ่มได้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น โครงการของการเคหะร่มเกล้า ที่สามารถเพิ่มพื้นที่พัฒนาได้เพราะเป็นโครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่กว่า 500 ไร่)
        นอกจากนี้ ยังมีมาตรการใหม่ๆ เกี่ยวกับ การโอนสิทธิ์การพัฒนาให้กับที่ดินระหว่างแปลงในบริเวณที่ใช้ประโยชน์ที่ดิน และการโอนสิทธิ์การพัฒนาที่ดินที่บริเวณหนึ่งไปยังที่ดินแปลงอื่นที่อยู่ภายใน500เมตร รอบสถานี รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในบริเวณที่ดินประเภท พ.5และ พ.6หรือไปยังบริเวณที่ดินประเภทพ.7หรือที่ดินประเภท พ.8ได้แก่การโอนสิทธิ์จากที่ดินอาคารประวัติศาสตร์ หรือ โอนสิทธิ์จากพื้นที่อนุรักษ์เกษตรกรรม
                  จะมีการปิดประกาศให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียยื่นคำร้องภายใน 90 วัน ในช่วงกลางปี จากนั้นจะเสนอคำร้องต่อคณะกรรมการพิจารณาโดยจะประกาศใช้ภายในปี 2564
 
ข่าวกฎหมายอสังหาฯ อื่นๆ