นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยเปิดเผยถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศผ่อนคลายมาตรการเพิ่มวงเงินดาวน์ในการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือ LTV  (Loan to value) ว่า มองเป็นเรื่องดีที่ภาครัฐมีการขยับตัว ในยามที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยกำลังเผชิญปัญหา ซึ่งการที่ปรับเกณฑ์ใหม่ครั้งนี้ถือว่าดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ซึ่งจากนี้ต้องรอดูผลว่าจะแก้ปัญหาได้มากน้อยเพียงใด

          "การปรับเกณฑ์ LTV ใหม่ครั้งนี้ จะเน้นช่วยกลุ่มบ้านที่ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท และช่วยชัดเจนในสัญญาแรก เพราะ ธปท.มีตัวเลขรายงานชัดเจนว่ากลุ่มที่อยู่อาศัยไหน ในระดับราคาเท่าไร ที่ประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ ซึ่งที่อยู่อาศัยที่กระทบหนักสุด มีสต๊อกมากที่สุด คือ บ้าน ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียมที่ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งคาดว่ามาตรการใหม่ที่ออกมา จะมีส่วนช่วยระบายสต๊อกได้"

          อย่างไรก็ตาม การที่มีหลายผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าการปรับเกณฑ์ LTV ใหม่ ไม่มีส่วนช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์เท่าที่ควรนั้นนายพรนริศ กล่าวว่า ไม่อยากให้มองว่าไม่ช่วย การมองว่าไม่ค่อยช่วยนั้น อาจเป็นเพราะผู้ประกอบการเห็นว่าแก้ปัญหาไม่ตรงกับโรคที่ตนเองกำลังเป็นอยู่

          "เปรียบเทียบง่ายๆ เหมือนภาครัฐกำลังผ่อนเชือกที่ตึงอยู่ให้หย่อนลงบ้าง เพราะเชือกตึงไปก็อาจขาดได้ ในทางกลับกัน หากปล่อยแบบหละหลวมหย่อนไป ก็จะขาดซึ่งระเบียบวินัย และอาจนำมาซึ่งปัญหาที่ต้องตามไปแก้ไขอีก ปัญหาก็จะวนเป็นวัฏจักรอยู่แบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลง".