เอกชนไม่ห่วง เอเวอร์แกรนด์ ลุ้นต่างชาติย้ายเงินลงทุนไทย
Loading

เอกชนไม่ห่วง เอเวอร์แกรนด์ ลุ้นต่างชาติย้ายเงินลงทุนไทย

วันที่ : 17 กันยายน 2564
มั่นใจไม่สะเทือนอสังหาฯไทย ยัน อสังหาไทย การเงินแกร่ง
          "รัฐ-เอกชน" ประสานเสียง "เอเวอร์แกรนด์" ไม่กระทบไทย "คลัง"ชี้แบงก์ไทย- อสังหาฯจีนเกี่ยวข้องกันน้อย "นักวิเคราะห์"คาด ไม่กระทบตลาดเงิน-ตลาดทุนไทยโดยตรง  ชี้ผู้ประกอบการ ฐานะการเงินแกร่ง "ส.อ.ท.-หอการค้า"มั่นใจรัฐบาลจีนคุมอยู่

          "เอเวอร์แกรนด์" บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีนมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ หลังจากเผชิญภาวะล้มละลาย โดยที่ผ่านมาได้ขยายธุรกิจและไล่ซื้อกิจการมากมาย ซึ่งปัญหาวิกฤติสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะสร้างความเสี่ยงต่อระบบการเงินจีน

          นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า กรณีดังกล่าว จะไม่มีผลกระทบต่อไทย โดยมองตลาดหุ้นไทย ก็ยัง ไม่ตอบรับกับข่าวนี้ โดยดัชนียังปรับเพิ่มขึ้นได้ ฉะนั้น เรามองว่า บริษัทนี้ ส่วนใหญ่จะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีนเป็นหลัก ฉะนั้น สถาบันการเงินไทยไม่มีความสัมพันธ์กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจีนมากนัก เรามองยังไม่มีผลกับไทย

          "ถ้าจะกระทบต่อเรา ตลาดหุ้นจะไปก่อน แต่เท่าที่ดู ตลาดหุ้นก็ยังบวกและตลาดหุ้นฮ่องกงมีลงบ้าง แต่ตลาดไทยยังบวก จึงไม่ได้กังวลเรื่องนี้ และฐานะการเงินของไทย และดูว่า ความสัมพันธ์ ระหว่างสถาบันการเงินไทยกับอสังหา ริมทรัพย์ในจีนไม่ได้เยอะมาก จึงไม่กังวลในเรื่องนี้"

          มั่นใจไม่สะเทือนอสังหาฯไทย

          นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ฟินิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด กล่าวว่า จากวิกฤติปัญหาของ ยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์เอเวอร์แกรนด์นั้น มองว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะหากพิจารณาเชิงการลงทุนของดีเวลลอปเปอร์ในตลาดไทยไม่มีการขยายการลงทุนสูงมากเกินกว่าความต้องการของตลาด อีกทั้งภาวะตลาด ที่ซบเซาจากกำลังซื้อและเศรษฐกิจ ชะลอตัว อีกทั้งวิกฤติโควิดกว่าปีครึ่ง ที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประกอบการชะลอ การลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ อยู่แล้ว

          "ที่น่าเป็นห่วงกลุ่มนักลงทุนไทย ที่นิยมซื้อกองทุนจีนมากกว่า เพราะไม่รู้ว่ากองทุนนั้นไปลงทุนตราสารหนี้ของ เอเวอร์แกรนด์บ้างหรือไม่"

          ทั้งนี้ต้องจับตาดูว่ากลุ่มของนักลงทุนรายย่อยหรือสถาบันต่างๆ ที่เข้าไปลงทุน ในตลาดตราสารหนี้ หรือ ตลาดหลักทรัพย์ประเทศจีน และฮ่องกงโดยการซื้อ กองทุนและตราสารหนี้ เช่น กองทุน ตราสารหนี้จีน กองทุนตราสารหนี้เอเชีย กองทุนตราสารหนี้ กองทุนตราสารหนี้ Emerging Market ต้องเช็คดูว่ามีการลงทุนในตราสารหนี้ของเอเวอร์แกรนด์บ้างหรือไม่ เพราะได้รับผลกระทบแน่นอนถ้าเอเวอร์แกรนด์เกิดปัญหาขึ้น ซึ่งบางกองทุนมีการขายออกไปก่อนหน้านี้แล้ว เพราะสัญญาณของปัญหามีให้เห็นมาก่อนหน้านี้แล้ว

          อย่างไรก็ตาม กรณีวิกฤติเอเวอร์แกรนด์ นั้นอาจทำให้รัฐบาลจีนเข้มงวดและมีข้อจำกัด ในการลงทุนในต่างประเทศของบริษัทต่าง ๆ ของประเทศจีนมากขึ้น แบบที่กำลังเข้มงวด กับบริษัทขนาดใหญ่จำนวนมากในประเทศจีน ขณะนี้

          อสังหาไทย การเงินแกร่ง

          นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ กล่าวว่า เชื่อว่ากรณีของเอเวอร์แกรนด์จะไม่ส่งผลกระทบ ต่อตลาดทุนและตลาดเงินไทยอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนจากแรงขายของนักลงทุน ต่างประเทศวานนี้ (16 ก.ย.) ที่เลือกขาย เฉพาะตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงเท่านั้น อย่างไรก็ดี คาดว่าตลาดเงินและตลาดทุน ไทยอาจถูกกระทบทางอ้อมหากค่าเงินหยวนอ่อนค่า แต่มองเป็นปัจจัยลบระยะสั้น เท่านั้น

          ขณะที่ความเสี่ยงในภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทย มองว่ามีความเสี่ยงน้อยมาก เนื่องจากบริษัทอสังหาฯ ขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นมีอัตราการก่อหนี้ที่ต่ำมาก สะท้อนจากอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่อยู่ในระดับต่ำ โดยคาดว่าเป็นผลจากที่บริษัทอสังหาฯ มีประสบการณ์ผ่านวิกฤตเศรษฐกิจใน ปี 2540 มาแล้ว ส่งผลให้มีความระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจ

          นอกจากนี้ ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา พบว่าบริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯ ชะลอ เปิดตัวโครงการใหม่ และเน้นการขาย สินค้าโครงการเดิมในมือแทน ส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากการระบาดของ โควิด-19 และอีกส่วนมาจากมาตรการ คุมเข้มสินเชื่อสังหาฯ หรือกำหนดให้วางหลักประกันบางส่วนก่อนกู้เงิน (LTV) ของภาครัฐ

          ลุ้นต่างชาติย้ายเงินลงทุนไทย

          นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า คาดว่า การล้ม ของเอเวอร์แกรนด์จะไม่กระทบต่อไทยโดยตรง และในทางกลับกัน คาดว่า จะเป็นบวกต่อนักลงทุนอสังหาฯ ที่มี โอกาสหันกลับมาลงทุนในไทยมากขึ้น  เพราะมีความน่าเชื่อถือและความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนสถาบันที่เป็นกองทุน รวมถึงนักลงทุนรายย่อยที่ลงทุนตรง

          นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ และหัวหน้าสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ผู้ประกอบการอสังหาฯ ในไทยมีความเสี่ยงต่ำมาก สะท้อนจาก D/E ที่ต่ำกว่า 1 เท่า ขณะที่กรณีที่เอเวอร์แกรนด์ผิดนัดชำระหนี้ คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาคอสังหาฯ ในประเทศ ส่วนโอกาสที่นักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น มองว่า ยังมีข้อจำกัดจากมาตรการ LTV เพราะ นักลงทุนต่างชาติลงทุนในคอนโดมิเนียมได้เท่านั้น รวมถึงข้อจำกัดด้านการเดินทางระหว่างประเทศ

          ส.อ.ท.มั่นใจรัฐบาลจีนคุมได้

          นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า หลังจากนี้คงต้อง ดูว่ารัฐบาลจีนจะเข้ามาแก้ปัญหาของ เอเวอร์แกรนด์อย่างไร และสามารถ ควบคุมสถานการณ์ได้แค่ไหน ซึ่งผลกระทบทางตรงต่อประเทศไทยคงไม่มากเพราะการลงทุนระหว่างไทย และจีน เพิ่งมีมากในช่วงหลัง แต่ต้องดู ผลกระทบต่อฮ่องกงและสิงคโปร์ที่อาจได้รับผลกระทบมากและอาจส่งผลกระทบทางอ้อมมาถึงประเทศไทย

          "รัฐบาลจีนน่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ เพราะที่ผ่านมาก็จัดการปัญหาที่เกิดขึ้นกับเอกชนได้ เช่น เท็นเซ็น อาลีบาบา จึงเชื่อว่าปัญหาของเอเวอร์แกรนด์ก็น่าจะมีวิธีเข้าไปจัดการ รวมทั้งต้องดูว่าธนาคารและเจ้าหนี้ในกรณีนี้จะเป็นอย่างไร แต่ธนาคารของจีนอยู่ในการดูแลจากรัฐบาลจีนอยู่แล้วและถือว่ามีความเข้มแข็งมาก จึงไม่น่าจะกระทบกับสภาพคล่อง ซึ่ง ต่างจากวิกฤติซับไพร์มของสหรัฐเมื่อปี 2550-2551 เพราะการเข้ามาแก้ปัญหาของรัฐบาลสหรัฐและรัฐบาลจีนจะแตกต่างกัน" นายสุพันธุ์ กล่าว

          หอการค้าชี้กระทบแบงก์จีน

          นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า กรณีปัญหาของ "เอเวอร์แกรนด์"ที่อาจผิดนัดชำระหนี้ อาจทำให้เกิดวิกฤติซับไพร์มเอเชีย โดยประเด็นนี้หอการค้าไทยเชื่อมั่นว่า ทางรัฐบาลจีนมีความรู้ และประสบการณ์ ในด้านการแก้ปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์ในช่วงวิกฤติที่ผ่านมามากมายอยู่แล้ว  ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจีนจะมีมาตรการที่ เหมาะสมในการจัดการเรื่องนี้

          "ส่วนผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับไทย ซึ่งในภาพรวมยังไม่เห็นว่าจะกระทบกับไทยมาก เพราะหลักๆเป็นเรื่องธุรกิจ อสังหาในจีน และการระดมทุนก็น่าจะ มาจากในจีนและฮ่องกงเองเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น ผลกระทบที่จะเกิดก็น่าจะเกิดกับธนาคารและบริษัทที่ไปร่วมให้กู้ หรือไปลงทุนร่วม"นายสนั่น กล่าว
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ