นายวุฒิชัย เหลืองอมรเลิศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามพาร์ค บางกอก จำกัด ผู้บริหารสวนน้ำสวนสนุก สยามอะเมซิ่งพาร์ค หรือสวนสยาม เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะกลับไปทำธุรกิจโครงการอสังหาริมทรัพย์เหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งเคยพัฒนาโครงการอมรพันธ์นคร เพื่อกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจสวนน้ำสวนสนุกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต่อเนื่อง จากปี 63 ที่ผ่านมา จนต้องปิดให้บริการชั่วคราว โดยเฉพาะปีนี้ที่ได้รับผลกระทบหนักสุดในรอบ 41 ปีตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการ

          "ตั้งแต่ต้นปีสยามอะเมซิ่งพาร์คเปิดให้บริการได้เพียง 3 เดือน มีรายได้ 40 ล้านบาท จากจำนวนผู้ให้บริการ 100,000 คน เท่านั้น ขณะที่ปี 62 มีรายได้ 170 ล้านบาท จำนวนผู้ใช้บริการ 300,000 คน ลดจากปี 62 ที่มีรายได้ 355 ล้านบาท ผู้ใช้บริการ 700,000 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักเรียน และกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ที่ให้พนักงานเข้ามาสร้างความสนุก รวมไปถึงนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะเห็นว่าปีนี้ปิดล็อกดาวน์ถึงปัจจุบันนาน 6 เดือน ที่ไม่ได้เปิดให้บริการเลย จึงทำให้บริษัทต้องมองหาธุรกิจใหม่เข้ามาช่วยลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหลังจากนี้"

          นางนพกาญจน์ เหลืองอมรเลิศ รองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่สายการตลาดและการขาย บริษัท สยาม พาร์ค บางกอก จำกัด กล่าวว่า สำหรับโครงการ บางกอกเวิลด์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสำหรับจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองทุกภูมิภาคและจำลองความงามในกรุงเทพฯ ที่ใช้เงินลงทุน 5,000 ล้านบาท นั้น ยังคงเดินหน้าดำเนินการต่อเนื่องแต่จะเลื่อนเปิดให้บริการจากเดิมคาดว่าเปิดได้ช่วงไตรมาส 4 ปี 64 เป็นช่วงเดือน พ.ย. ปี 65 แทน

          ทั้งนี้ ปัจจุบันมีการสร้างไปแล้ว 60% ซึ่งเชื่อว่า หลังจากเปิดให้บริการจะช่วยต่อยอดให้มีฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่ลูกค้าจำกัดอยู่เฉพาะการมาเล่นสวนน้ำปิดให้บริการ 18.00 น. แต่หลังจากนี้เปิดบางกอกเวิลด์ จะปิดให้บริการ 22.00 น. และเลื่อนบริการสวนน้ำเป็น 21.00 น. และจะมีทั้งรีเทลขายสินค้าวิสาหกิจชุมชนที่แตกต่างจากในห้างสรรพสินค้า มีเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่สร้างความบันเทิง และการจำลองเมืองบางกอกที่ดึงดูดให้คนมาท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากต่างชาติที่สามารถเดินทางมาได้สะดวกเพราะอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง รวมทั้งยังสามารถขยายเวลาเปิดให้บริการได้มากขึ้น