ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง "ธาตรี นุชสวาท" ขอปั้นแบรนด์ "ที กรุ๊ป แอซเซ็ท" ประกาศแตกไลน์ธุรกิจอสังหาฯ เป็นครั้งแรก หลังประสบความสำเร็จในธุรกิจเอเยนต์ขายคอนโดฯ พร้อมปักหมุดที่ จ.สุพรรณบุรี รูปแบบอาคารพาณิชย์ ทาวน์โฮมย่านรามอินทรา และคอนโดฯโลว์ไรส์ใน ซ.นวลจันทร์ รับรถไฟฟ้าสายสีชมพู เสริมการบริการครบวงจร ทั้งผู้ผลิตสินค้า ขาย และที่ปรึกษา

          นายธาตรี นุชสวาท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที กรุ๊ป แอซเซ็ท จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจในการบริหารเกี่ยวกับเรื่องของการขาย เช่า ขายฝาก และบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ นักธุรกิจคนรุ่นใหม่ ซึ่งดำเนินธุรกิจบริษัทที่ปรึกษาการขายและการตลาด (เอเยนต์) กล่าวว่า การที่เข้ามาทำธุรกิจดังกล่าว เนื่องจากมองว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นการสร้างโอกาสให้คนได้มีที่อยู่อาศัย เป็นปัจจัย 4 ที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิต และเป็นธุรกิจที่ตนมีความเชี่ยวชาญและถนัดอย่างมาก

          "จุดแข็งของเรา คือ การสร้างความต่าง เราต้องสร้างเป้าหมาย เดิมเราอยากมีรายได้เยอะ แต่ตอนนี้ ได้ปรับรูปแบบมาสู่การมุ่งการขาย ควบคู่ไปกับการบริการในด้านสินเชื่อให้กับลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย โดยเราจะเป็นผู้เชี่ยวชาญตลาดซิตี้คอนโดฯระดับราคา 3 ล้านบาทลงมา พอร์ตหลักจะอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง กำลังซื้อกลับมาดีขึ้นมาก"

          ปัจจุบัน ที กรุ๊ปฯ มีสินค้าที่อยู่ในความรับผิดชอบประมาณ 10 โครงการ จำนวน 400-500 ยูนิต ในแต่ละเดือนสามารถโอนได้ 30-40 ยูนิต หรือประมาณ 360-480 ยูนิตต่อปี และขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเข้าไปบริหารพอร์ตอีก 3 โครงการ
          อย่างไรก็ตาม ในแผนปี 2562 บริษัทจะเพิ่มกลยุทธ์ มาให้น้ำหนักสร้างพอร์ตผู้ซื้อรายย่อยมากขึ้น เนื่องจากลูกค้าของบริษัทเป็นคนไทย เป็นกลุ่มพนักงานเงินเดือน ซึ่งมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ก็ต้องการที่อยู่อาศัย โดยจะเลือกให้ลูกค้าเหมาะสมกับทำเล(โลเกชั่น) เจาะกลุ่มผู้ซื้อ (เรียลดีมานด์)มากกว่าเรื่องของการส่งเสริมดีมานด์เทียม เพื่อป้องกันการโอนไม่ได้ และสร้างผลเสียให้กับผู้ประกอบการ กระทบเป็นวงกว้าง

          ล่าสุด ตนได้ร่วมกับหุ้นส่วนในการขยายไลน์ธุรกิจไปสู่การเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้บริษัท ที กรุ๊ป แอซเซ็ท ได้แก่ โครงการที่สามชุก จ.สุพรรณบุรี รูปแบบอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น จำนวน 10 อาคาร เนื้อที่ 20 ตารางวา ราคาขาย 2.5-3.5 ล้านบาท และทาวน์โฮมที่จะเปิดขายกลางปี 62 จำนวน 5 ยูนิต ราคาขาย 1.99-2.19 ล้านบาท รวมมูลค่าขายทั้งหมด 40 ล้านบาท      โครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น ในซอยรามอินทรา 117 จำนวน 9 ยูนิต ขนาดพื้นที่ 293 ตร.ว. ราคา 2.49-2.69 ล้านบาท มูลค่าขาย 23 ล้านบาท โครงการในซอยนวลจันทร์ รูปแบบคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ สูงเพียง 5 ชั้น จำนวน 40 ยูนิต ขนาดพื้นที่ 24.5-32 ตร.ม. มูลค่าขาย 70 ล้านบาท ทั้งสองโครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพูที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

          "โครงการที่จะเกิดขึ้นในปีหน้ามีมูลค่าขายเกือบ 150 ล้านบาท  ส่วนในปี 63 วางเป้าเปิด 6 โครงการ รูปแบบจะไม่กำหนดโลเกชั่น โครงการไม่ใหญ่ เพราะจะทำให้เราลงทุนก้อนเล็กๆ ได้ เข้าไปในทำเลที่เป็นสุญญากาศ เข้าไปในหัวเมือง การเน้นโฟกัสกรุ๊ปเป็นสำคัญ ซึ่งวางเป้าการเติบโตแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 10%"