นายฤทธิกา สุภารัตน์ รักษาการผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่าจากการประชุมคณะกรรรมการ (บอร์ด) รฟม.ที่ผ่านมาที่ประชุมได้เร่งรัดให้รฟม.ดำเนินโครงการพีพีพีรถไฟฟ้าทั้ง 4 สายให้สามารถเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และเข้าสู่ขั้นตอนการประกวดราคาให้ได้ตามแผนดังนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะระยะทาง 23.6 กม. งบประมาณก่อสร้าง 1.01 แสนล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ระยะทาง 12.9 กม. งบฯ ก่อสร้าง 90,271 ล้านบาทโครงการรถไฟรางเบา (แทรม) จ.ภูเก็ต ช่วงท่านุ่นท่าอากาศยานภูเก็ต- ห้าแยกฉลองงบฯก่อสร้าง 3.94 หมื่นล้านบาท และโครง การรถไฟรางเบา (แทรม) จ.เชียงใหม่ งบฯ ก่อสร้าง 1 แสนล้านบาทโดยรฟม.ได้ตั้งเป้าว่าจะเสนอโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้และรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกเข้าสู่ที่ประชุม คณะกรรมการพีพีพีและสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ภายในเดือน เม.ย.นี้ เพื่อพิจารณาเห็นชอบก่อนส่งต่อไปยังที่ประชุมครม.ต่อไป

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ส่วนต่อขยายช่วงสมุทรปราการ-บางปูวงเงิน 1.37 หมื่นล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือส่วนต่อขยายช่วงคูคตลำลูกกา วงเงิน 1.19 หมื่นล้านบาทนั้น หลังจากที่รฟม.โอนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้กทม.ไปแล้วก็เป็นหน้าที่ ของกทม.ที่ต้องออกแบบรายละเอียดโครงการและจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เพื่อยื่นเสนอให้ครม.พิจารณา

นายฤทธิกากล่าวต่อว่า นายไพรินทร์ ชูโชติถาวรรมช.คมนาคม ได้มอบนโยบายให้รฟม.ไปลงทุนจัดตั้งศูนย์กลางการฝึกอบรมบุคลากรด้านรถไฟฟ้าเพื่อรองรับการจัดตั้งกรมการขนส่งทางราง (กรมราง) ที่จะเกิดขึ้นในปี 62 ส่วนจะใช้งบฯ จัดตั้งเท่าไหร่ต้องรอผลศึกษาก่อนโดยรฟม.จะไปเร่งศึกษาวิธีตั้งศูนย์ฝึกอบรมโดยยึดโมเดลของญี่ปุ่นซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในการพัฒนาบุคลากรด้านรถไฟฟ้าโดยศูนย์แห่งนี้จะฝึกอบรมทั้งเชิงทฤษฎีและปฏิบัติงานจริงก่อนส่งบุคลากรไปสอบเพื่อขอรับในอนุญาตประกอบวิชาชีพ (License) ซึ่งจะออกให้โดยกรมรางทั้งนี้จะต้องร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาศูนย์อบรมให้มีประสิทธิภาพสูงสุด.