DRTปรับกลยุทธ์บริหารการขาย รับมือตลาดวัสดุก่อสร้างผันผวน
Loading

DRTปรับกลยุทธ์บริหารการขาย รับมือตลาดวัสดุก่อสร้างผันผวน

วันที่ : 15 กรกฎาคม 2560
DRTปรับกลยุทธ์บริหารการขาย รับมือตลาดวัสดุก่อสร้างผันผวน

DRT มองตลาดวัสดุก่อสร้าง ครึ่งปีหลังแนวโน้มผันผวนสูง หลังแรงงานต่างด้าวทยอยกลับถิ่นฐานจากความไม่แน่นอนในการบังคับใช้ พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าว หวั่นกระทบภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างที่อยู่อาศัยและความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างชะลอตัว เดินหมากแก้เกมชูกลยุทธ์บริหารโปรดักต์มิกซ์รักษาอัตรากำไรขั้นต้น พร้อมรุกทุกช่องทางขายให้ได้ตามเป้า

          นายสาธิต สุดบรรทัด กรรม การผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เปิดเผยว่า บริษัทประเมินแนวโน้มความต้องการใช้ตลาดวัสดุก่อสร้างในครึ่งปีหลังของปีนี้ ยังมีความผันผวนค่อนข้างสูง ส่วนหนึ่งมาจากความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนกรณีที่รัฐบาลไทยจะบังคับใช้ พ.ร.ก. การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว โดยเพิ่มบทลงโทษนาย จ้างและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่รุนแรงขึ้น ถึงแม้ว่าล่าสุดภาครัฐได้ออก ม.44 ผ่อนปรนยืดเวลาให้เวลาแรงงานต่างด้าวไปขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่จากความไม่แน่นอนในครั้งนี้ ทำให้แรงงานต่างด้าวบางส่วนเลือกเดินทางกลับถิ่นฐาน เพื่อรอความชัดเจนอีกครั้ง

          ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคอุตสาหกรรมการก่อสร้างที่อยู่อาศัยต้องล่าช้าออกไป เนื่องจากมีความจำเป็นต้องใช้แรงงานต่างด้าวเป็นจำนวนมาก และมีผลต่อภาพรวมความต้องการใช้สินค้าวัสดุก่อสร้างในครึ่งปีหลังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประกอบกับปัจจุบันเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของการขายสินค้าวัสดุก่อสร้าง มีผลให้กำลังซื้อผู้บริโภคชะลอตัวลงบ้าง ทำให้ผู้ประกอบการในตลาดวัสดุก่อสร้างจำเป็นต้องปรับตัวให้สอดรับกับทิศทางของตลาดวัสดุก่อสร้าง

          อย่างไรก็ตาม บริษัทได้วางกลยุทธ์การบริหารจัดการสินค้าที่หลากหลาย เพื่อผลักดันการเติบโตให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยมุ่งทำตลาดสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีอัตราการเติบโตที่ดีมากยิ่งขึ้น ตลอดจนมุ่งเน้นผลักดันสินค้าผ่านทุกช่องทางขาย ทั้งห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย กลุ่มลูกค้าโครงการอสัง- หาริมทรัพย์และตลาดต่างประเทศ พร้อมนำเสนอบริการติดตั้งระบบหลังคาแบบครบวงจร เพื่อกระตุ้นการขายอย่างเต็มที่

          "บริษัทคงต้องทำการตลาดเชิงรุกทุกช่องทางการขายอย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ท่ามกลางภาวะตลาดที่เชื่อว่าการแข่งขันจะรุนแรงขึ้น จากบรรยา- กาศของตลาดวัสดุก่อสร้างที่น่าจะชะลอตัวลง โดยมีเป้าหมายที่จะรักษาอัตราการใช้เครื่องจักรทั้งปีเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์ไม่ต่ำกว่า 80% รวมถึงการบริหารโปรดักต์มิกซ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำกำไรต่อหน่วยและรักษาขีดความสามารถในการทำกำไรขั้นต้น" นายสาธิต กล่าว

          ส่วนภาพรวมการดำเนินงานในครึ่งปีแรก บริษัทยังคงสามารถรักษาอัตราการใช้เครื่องจักรเฉลี่ยอยู่ในระดับ 80-90% แม้บรรยากาศและกำลังซื้อผู้บริโภคได้ชะลอตัวลงในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เนื่องจากเทศกาลวันหยุดยาว แต่ในส่วนของช่องทางการขายผ่านกลุ่มห้างค้าปลีก วัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ยังคงเติบโตได้ดี เนื่องจากผู้ประกอบการบางรายมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทได้มุ่งเน้นทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น การจัดชั้นวางสินค้าที่สามารถสร้างความโดดเด่น เพื่อผลักดันการขายเพิ่มขึ้น

ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ

 

 

 

ข่าววัสดุก่อสร้าง-เฟอร์นิเจอร์ อื่นๆ