ครึ่งปีหลังราคาวัสดุพุ่ง
Loading

ครึ่งปีหลังราคาวัสดุพุ่ง

วันที่ : 28 มกราคม 2562
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับขึ้น โดยเฉพาะวัสดุที่มีส่วนประกอบของซีเมนต์ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมีการปรับขึ้นต่อเนื่อง คาดปีนี้จะมีการปรับขึ้นอีก ส่งผลให้ต้นทุนสร้างบ้านและซ่อมแซมเพิ่มขึ้นราว 3-5%
          เอกชนจ่อขยับบ้านเพิ่ม3-5%ตามต้นทุน คาดตลาดแตะ3หมื่นล.

          วัสดุจ่อขึ้นราคา

          ตราเพชร คาดครึ่งปีหลัง วัสดุก่อสร้างแห่ปรับราคา ส่งผลต้นทุนสร้างบ้านขึ้น ผู้ประกอบการจ่อขยับตาม ดันภาพรวมวัสดุทะลุ 3 หมื่นล้าน

          ตราเพชร ชี้วัสดุก่อสร้างแห่ปรับราคา ส่งผลต้นทุนสร้างบ้านขึ้น ผู้ประกอบการจ่อขยับครึ่งปีหลัง คาดปีนี้มูลค่าวัสดุหลังคาและผนังแตะ 3 หมื่นล้าน

          นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับขึ้น โดยเฉพาะวัสดุที่มีส่วนประกอบของซีเมนต์ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมีการปรับขึ้นต่อเนื่อง คาดปีนี้จะมีการปรับขึ้นอีก ส่งผลให้ต้นทุนสร้างบ้านและซ่อมแซมเพิ่มขึ้นราว 3-5%

          สำหรับตลาดวัสดุก่อสร้างในครึ่งแรกปี 2562 มองว่าตลาดมีการเติบโต เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของภาคการก่อสร้าง โดยผู้ประกอบการจะเร่งทำตลาดเพื่อรองรับภาคการก่อสร้างไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน โครงการบ้านล้านหลัง และการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยตามแผนของภาคเอกชน ที่จะหนุนให้ภาพรวมตลาดวัสดุในปีนี้มีความคึกคักมากขึ้น คาดตลาดโตรวม 5-10% โดยมูลค่าตลาดวัสดุหลังคาและผนังรวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท โดยสัดส่วนตลาดแบ่งเป็น โครงการสร้างใหม่ 60-70% ที่เหลือ 30-40% เป็นตลาดซ่อมแซมและปรับปรุง

          "ปีที่ผ่านมารวมทั้งในครึ่งแรกปีนี้ ผู้ประกอบการยังคงยืนราคาไม่ปรับราคาขายวัสดุ เพราะไม่ต้องการให้ธุรกิจภาพรวมและกำลังซื้อชะลอตัวในช่วงเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่คงต้องดูสถานการณ์อีกครั้งในครึ่งปีหลังว่าจะปรับราคาขายหรือไม่ ตอนนี้ส่วนใหญ่จะเลือกยกเลิกส่วนลดให้กับร้านค้าหรือโครงการแทนการปรับขึ้นราคา" นายสาธิต กล่าว

          ด้านแผนงานบริษัทนั้น ในปีนี้จะเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านการผลิตและบริหารคลังสินค้ารวมทั้งการให้บริการแบบครบวงจร เพื่อรองรับโอกาสทางการตลาดที่เกิดจากการขยายตัวของ โมเดิร์นเทรดที่มีแผนจะเปิดสาขาใหม่เพิ่ม ขณะที่ช่องทางการจัดจำหน่ายจากร้านค้ารายย่อยโดยเฉพาะในส่วนของภูมิภาคจะกลับมาเติบโตขึ้น หลังจากราคาสินค้าเกษตรบางรายการปรับตัวดีขึ้น ทำให้ ผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้น

          ขณะที่ตลาดส่งออกในกลุ่มซีแอลเอ็มวี คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตจากผู้ประกอบการค้าปลีกขยายสาขา ส่งผลดีต่อการเพิ่มยอดขายของบริษัท เพราะแบรนด์เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค คาดสัดส่วนยอดขายจากตลาดส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 20% ของยอดขายรวมทั้งหมด โดยตลาดที่เติบโตได้ดีคือ กัมพูชา เวียดนาม สปป.ลาว อินเดีย และจีน ส่วนเมียนมาตลาดทรงตัว

          ทั้งนี้ ในส่วนอีก 80% ที่เหลือมาจากการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย 50% ผ่านโครงการ 15% และโมเดิร์นเทรด 15% ซึ่งปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตไม่น้อยกว่า 5% จากปีที่แล้วที่มีรายได้ราว 4,000 ล้านบาท ในปีนี้บริษัทยังคงรุกทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งเพื่อสร้างแบรนด์และให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย โดยวางงบการตลาดราว 5-7%
 
ข่าววัสดุก่อสร้าง-เฟอร์นิเจอร์ อื่นๆ