"ยูนิเวนเจอร์" ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเครือ "เสี่ยเจริญ" เปิดแผนปี 62 ลุยลงทุน 31 โครงการใหม่มูลค่า 38,200 ล้านบาท ตั้งเป้ามีรายได้รวม 25,800 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 16% ด้านผู้ถือหุ้นอนุมัติ UV และ GOLD ออกหุ้นกู้วงเงิน 5,000 ล้านบาท เสริมสภาพคล่องการเงินและซื้อที่ดิน

          นายวรวรรต ศรีสอ้าน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV เปิดเผยว่า ผลการดำเนินธุรกิจในปี 2561 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ 1,006 ล้านบาท จากรายได้รวม 20,994 ล้านบาท ซึ่งมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 16,812 ล้านบาท คิดเป็น 80% ของรายได้ ซึ่งแบ่งเป็นรายได้จากโครงการแนวราบ 14,053 ล้านบาท มาจากโครงการของกลุ่มแผ่นดินทอง จำนวน 38 โครงการ และรายได้จากโครงการแนวสูง 2,759 ล้านบาท จาก 8 โครงการ ของ บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด หรือ GRAND UNITY ขณะเดียวกัน ยังมีรายได้จากธุรกิจอสังหาฯ เพื่อเช่าและโรงแรมอีก 1,687 ล้านบาท และธุรกิจอื่นๆ 2,494 ล้านบาท

          สำหรับในปี 2562 บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่รวม 31 โครงการ มูลค่ารวม 38,200 ล้านบาท แบ่งการพัฒนาออกเป็นโครงการแนวราบ 25 โครงการ มูลค่ารวม 28,600 ล้านบาท และโครงการแนวสูง 6 โครงการ มูลค่าโครงการไม่น้อยกว่า 9,600 ล้านบาท และตั้งเป้าว่าจะมีรายได้รวมที่ 25,800 ล้านบาท โดยมีรายได้หลักมาจากธุรกิจอสังหาฯ เพื่อขายคิดเป็น 83% แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 69% และคอนโดมิเนียม 13% รายได้จากธุรกิจ อสังหาฯ เพื่อเช่าและโรงแรม 7% ส่วนที่เหลือ 10% จะเป็นรายได้จากธุรกิจอื่นๆ

          "ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ รวมทั้งสิ้น 10,200 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 7,000 ล้านบาท และโครงการแนวสูง 3,200 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปี 2562 จำนวน 9,700 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการรับรู้รายได้จากโครงการแนวราบ 7,000 และโครงการแนวสูง 2,700 หรือคิดเป็น 45% ของเป้ารายได้อสังหาฯ เพื่อขายปี 2562 ที่ 21,400 ล้านบาท"

          นายวรวรรตกล่าวว่า ล่าสุดที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2562 ได้มีมติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ UV และ GOLD อนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้เพิ่มเติมในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็น UV 2,000 ล้านบาท และ GOLD 3,000 ล้านบาท โดยเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ดังกล่าว บริษัทจะนำไปใช้เสริมสภาพคล่องการเงินและซื้อที่ดินรอการพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคต โดยในปีนี้ UV วางงบในการซื้อที่ดินไว้ที่ 15,000 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้าที่ตั้งงบในการซื้อที่ดินไว้ที่ 16,000 ล้านบาท

          สำหรับในปี 2562 บริษัทยังคงเน้นเสริมความแข็งแกร่งองค์กร เพื่อประสิทธิภาพและความพร้อมในการขับเคลื่อนและพัฒนาภายในองค์กร เพื่อให้สามารถเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน โดยเพิ่มความเข้มข้นการดำเนินกลยุทธ์หลัก 3 ปี (ปี 2561-63) ใน 5 ส่วน ให้เป็น รูปธรรม คือ การ "Optimization" ความหลากหลาย เพื่อสร้างประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น การ "Diversification" ที่โครงการรูปแบบใหม่ๆ นอกจากบ้านเดี่ยวหรือคอนโดฯ เช่น การลงทุนพัฒนาโรงแรม ภายใต้ชื่อ Modena การมุ่งเน้น "Supply Chain" ต่อยอดและสร้างความแข็งแกร่งให้องค์กรและการดำเนินธุรกิจ และการ "Synergy" ธุรกิจที่ครอบคลุมในด้าน อสังหาฯ และสิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือ "Opportunistic Investment" การขับเคลื่อนโอกาส (Opportunity) เพื่อสร้างการรองรับโอกาสใหม่ๆ