เคพีเอ็น ทุ่มซื้อหุ้นไรมอนแลนด์เพิ่ม
Loading

เคพีเอ็น ทุ่มซื้อหุ้นไรมอนแลนด์เพิ่ม

วันที่ : 6 กุมภาพันธ์ 2562
กลุ่มเคพีเอ็น แลนด์ โดดเก็บหุ้น "ไรมอน แลนด์" เพิ่มอีก 5.5% ดันสัดส่วนแตะ 19.8% ขึ้นแท่นหุ้นใหญ่อันดับ 3 ด้านโบรกเกอร์ประเมินแนวโน้มธุรกิจมีเสถียรภาพมากขึ้น หลังรุกโครงการมิกซ์ยูส หนุนรายได้ระยะยาว
          ขึ้นแท่นหุ้นใหญ่อันดับ 3 โบรกชี้ธุรกิจโตแกร่ง

          กลุ่มเคพีเอ็น แลนด์ โดดเก็บหุ้น "ไรมอน แลนด์" เพิ่มอีก 5.5% ดันสัดส่วนแตะ 19.8% ขึ้นแท่นหุ้นใหญ่อันดับ 3 ด้านโบรกเกอร์ประเมินแนวโน้มธุรกิจมีเสถียรภาพมากขึ้น หลังรุกโครงการมิกซ์ยูส หนุนรายได้ระยะยาว

          วานนี้ (5 ก.พ.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เปิดเผยแบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ โดยพบว่า บริษัท เคพีเอ็น แลนด์ จำกัด ได้รายงานการได้

          มาซึ่งหุ้นของบริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML จำนวนกว่า 231 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 5.54% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา  โดยดำเนินการผ่านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) และส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาเพิ่มเป็น 828 ล้านหุ้น หรือ คิดเป็น 19.84% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ โดยซื้อที่ราคาเฉลี่ย 1.80 บาท คิดเป็นมูลค่าที่เข้าซื้อประมาณ 415 ล้านบาท มีนายกฤษณ์ ณรงค์เดช และนายกรณ์ ณรงค์เดช เป็นผู้จัดทำรายงานดังกล่าว ทั้งนี้คาดว่าการซื้อหุ้นดังกล่าวส่งผลให้กลุ่มเคพีเอ็น แลนด์ขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่สาม หลังจากตรวจสอบข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)พบว่า ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก(ณ 30 ส.ค.2561) ได้แก่ 1.JS ASSET MANAGEMENT PTE. LTD.จำนวน 893 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 24.98%, 2. นายจิรวุฒิ คุวานันท์ จำนวน 722.77 ล้านหุ้น หรือสัดส่วน 20.21%, 3.นายมงคล ประกิตชัยวัฒนา จำนวน 161.03 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 4.50%, 4.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 146.14 ล้านหุ้น หรือสัดส่วน 4.09% และ 5.UBS AG SINGAPORE BRANCH จำนวน 97.37 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 2.72%

          นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยว่ามองว่าการซื้อหุ้น RML เพิ่มของกลุ่มเคพีเอ็น แลนด์ในรอบนี้น่าจะเกิดจากเชื่อมั่นแนวโน้มธุรกิจของ RML ที่มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น หลังบริษัทได้มีเตรียมขยายการลงทุนในโครงการใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่เน้นโครงการลงทุนขนาดใหญ่เพียงไม่กี่โครงการ ทั้งนี้ในส่วนโครงการใหม่ที่บริษัทจะดำเนินการนั้น บางส่วนมีโครงการที่จะช่วยทำให้โครงสร้างรายได้ของบริษัทแบบสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่า ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะลงทุนก่อสร้าง

          โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นรูปแบบของโครงการมิกซ์ยูส ซึ่งจะมีทั้งสำนักงานออฟฟิศให้เช่าและโรงแรม ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนรายได้ในระยะยาวให้ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ในส่วนของราคาหุ้น RML นั้น ฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยให้ราคา เป้าหมายที่ระดับ 1.50 บาท

          "มองว่าการเก็บหุ้นเพิ่มของกลุ่ม เคพีเอ็นแลนด์น่าจะเป็นการมองภาพรวมของธุรกิจ หลังจากมีการปรับโครงสร้างของรายได้ให้มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจุดเริ่มต้นของทั้งสองบริษัทเกิดจากการขายสินทรัพย์ให้กันก่อนหน้านี้ ซึ่งต้องจับตาดูว่าจะมีการขายสินทรัพย์เข้ามาเพิ่ม อีกหรือเปล่า อย่างไรก็ตามเชื่อว่าปัจจุบันยังไม่ถึงขั้นเข้าข่ายแบ็คดอร์ ลิสติ้ง (เข้าตลาดหลักทรัพย์ทางอ้อม)"
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ