LTVดันยอดโอนไตรมาส1พุ่ง2แสนล. แบงก์ล็อกลูกค้าเซ็นเงินกู้ก่อนกฎธปท.
Loading

LTVดันยอดโอนไตรมาส1พุ่ง2แสนล. แบงก์ล็อกลูกค้าเซ็นเงินกู้ก่อนกฎธปท.

วันที่ : 7 มีนาคม 2562
ส.ธุรกิจบ้านจัดสรรฯ ระบุ LTV ดันยอดโอนไตรมาส 1 พุ่งแตะ 2 แสนล้านบาท เชื่อดึงยอดโอนไตรมาส 2 มากว่า 8 หมื่นล้านบาท จับตาแบงก์เซ็นสัญญาเงินกู้ก่อนโอนจริง หวังเลี่ยงเดดไลน์ใช้ LTV 1 เม.ย. 62 คาดแนวโน้มตลาดอสังหาฯปี 62 โตไม่เกิน 5%
          ส.ธุรกิจบ้านจัดสรรฯ ระบุ LTV ดันยอดโอนไตรมาส 1 พุ่งแตะ 2 แสนล้านบาท เชื่อดึงยอดโอนไตรมาส 2 มากว่า 8 หมื่นล้านบาท จับตาแบงก์เซ็นสัญญาเงินกู้ก่อนโอนจริง หวังเลี่ยงเดดไลน์ใช้ LTV 1 เม.ย. 62 คาดแนวโน้มตลาดอสังหาฯปี 62 โตไม่เกิน 5%

          วานนี้ (7 มี.ค.) 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ แถลงข่าวจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40 โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-24 มีนาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งจะมีผู้ประกอบการ อสังหาริมทรัพย์ สถาบันการเงิน และธุรกิจ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมแสดงสินค้าภายในงานกว่า 150 บริษัท และมีโครงการมากกว่า 1,000 โครงการ แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 32.8%  บ้านเดี่ยว 19.7% ทาวน์เฮาส์ 16.4% และอื่นๆ เป็นต้น อย่างไรก็ตามจากการจัดงานตลอด 4 วัน คาดว่าจะมีกลุ่มผู้บริโภคเข้ามาชมงานเกือบ 1 แสนคน และมียอดจองและยอดขายทั้งภายในงานและต่อเนื่องหลังงานมากกว่า 6,000 ล้านบาท

          นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ภาพรวมตลาดแนวราบในปีนี้คาดว่าจะยังทรงตัวแต่ยังมีโอกาสเติบโตได้ทั้งในทำเล กทม.-ปริมณฑลและต่างจังหวัด เนื่องจากผู้ที่ซื้อ ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงไม่มีการเก็งกำไร อย่างไรก็ตาม ในปีนี้แนวโน้มตลาดแนวราบทั่วประเทศคาดว่าจะมียอดขายใหม่ 110,000-120,000 ยูนิต หรือมีอัตราการเติบโตที่ประมาณ 5% โดยแบ่งเป็นในต่างจังหวัด 60,00-70,000 ยูนิต และในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล 50,000 ยูนิต

          โดยเชื่อว่าปีนี้ตลาดบ้านแนวราบจะครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่าคอนโดมิเนียมเป็นปีแรกในรอบหลายปี ซึ่งการที่มีเส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่เกิดขึ้นหลายสายทำให้การเดินทางจากเขตรอบนอกเมืองเข้ามาในเมืองง่ายขึ้น ทำให้ประชาชนเริ่มหันไปซื้อ ทาวน์เฮาส์ในซอยที่มีราคาต่อตารางเมตรถูกกว่าคอนโดมิเนียม 2-3 เท่า โดยคาดว่าตลาดทาวน์เฮาส์ จะแย่งส่วนแบ่งตลาดจากคอนโดฯ 5-10%

          ส่วนมาตรการ LTV ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ 1 เมษายน 62 จะทำให้ผู้ซื้อเร่งโอนกรรมสิทธิ์ก่อนมาตรการบังคับใช้ ซึ่งคาดว่าไตรมาส 1 จะมียอดโอนกรรมสิทธิ์มูลค่าสูงเกือบ 200,000 ล้านบาท จากปกติไตรมาสละประมาณ 120,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเป็นการดึงยอดโอนจากไตรมาส 2 มาประมาณ 80,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้การโอนในไตรมาส 2 ชะลอตัวลง

          "มาตรการ LTV อาจทำให้เกิดการเซ็นสัญญาสินเชื่อที่อยู่อาศัยล่วงหน้า เพื่อให้ทันกับมาตรการที่จะบังคับใช้ แต่ยังไม่เกิดการโอนจริง ซึ่งวิธีการนี้ถือว่าอยู่ในกรอบข้อบังคับของมาตรการ LTV การที่จะสามารถทำแบบนี้ได้จะต้องเป็นโครงการที่สร้างใกล้แล้วเสร็จแต่โอนไม่ทัน 1 เมษายน ผู้กู้จะต้องผ่านคุณสมบัติการกู้ โดยคาดว่าการเซ็นสัญญากู้ล่วงหน้าจะสามารถยืดระยะเวลาโอนได้ประมาณ 1-2 เดือน" นายอธิปกล่าว

          ด้านนายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ยังมีความแข็งแกร่ง ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกบ้าง อย่างไรก็ตาม การออกกฎหมายต่างๆ จะต้องรอความชัดเจนและนโยบายทางการเมืองของรัฐบาลชุดใหม่ก่อน ทั้งนี้จากตัวเลขจากหลายสถาบันวิเคราะห์เศรษฐกิจระบุว่า หากการเมืองในประเทศนิ่ง เศรษฐกิจไทยก็มีแนวโน้มการเติบโตดีขึ้น ส่วนเศรษฐกิจในประเทศจีนแม้จะมีการชะลอตัว แต่เชื่อว่าในระยะยาวหากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวก็จะทำให้ชาวจีนกลับมาซื้ออสังหาฯไทยมากขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ เริ่มมีหันไปซื้อที่ดินแปลงใหญ่ในภูมิภาคที่เป็นหัวเมืองใหญ่เป็นจำนวนมาก โดยจะเน้นการพัฒนาตลาดระดับกลาง-ล่างเป็นหลัก

          ด้าน ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ตลาดคอนโดฯดีมานด์ยังมีอัตราการเติบโต แต่อาจจะติดปัญหาเรื่องมาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value: LTV) สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านหลังที่ 2-3 ที่มีสัดส่วนประมาณ 20-30% หากนำมาเฉลี่ยก็จะทำให้ภาพรวมตลาดมีอัตราการเติบโตเล็กน้อย หรือทรงตัว ขณะที่ดีมานด์ชาวจีนนั้นพบว่ายังมีความต้องการซื้ออสังหาฯ ไทยอีกมาก จากอดีตที่ความน่าสนใจซื้ออสังหาฯไทยอยู่ในลำดับที่ 5-6 แต่ปัจจุบันได้ขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆเพราะประเทศไทยมีอสังหาฯในรูปแบบของฟรีโฮลด์ (Freehold)ให้ซื้อมาก และมีกฎหมายรองรับ ไม่ต้องเสียภาษีซื้อ เมื่อเทียบกับประเทศสิงคโปร์ แต่ขณะนี้จะติดปัญหาเรื่องซัปพลายรวมในประเทศที่มีมาก และการแข่งขันก็สูง ส่งผลให้ดีมานด์จากจีนมีอำนาจในการต่อรองได้มาก ซึ่งจะทำให้การขายยากขึ้น โครงการไหนที่ไม่ดีจริง หรือหลอกขายชาวจีน ก็จะไม่ได้รับความเชื่อถือ
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ