เมเจอร์ฯกระจายเสี่ยงลงทุนลุยแนวราบ-สูงมูลค่า5,000ล้าน

         เมเจอร์ฯ ประเดิมโครงการแรกบ้านระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ผ่านบริษัทลูก เอ็มเจ วัน ลุยลงทุน 5 โครงการ คอนโด-แนวราบ มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้าน

          นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ขยายการลงทุนมายังโครงการแนวราบเพื่อขยายพอร์ตการลงทุนให้มีความหลากหลายหลังจากขยายการลงทุนไปยังโครงการประเภทสร้างรายได้ระยะยาวทั้งอาคารสำนักงานและโรงแรม ภายใต้บริษัทในเครือบริษัท เอ็มเจ วัน

          สำหรับโครงการบ้านแนวราบโครงการแรกพัฒนาภายใต้แบรนด์มาวิสต้า เพรสทีจ วิลเลจ กรุงเทพกรีฑา จำนวน 14 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ 3 ชั้น สร้างเสร็จก่อนขายจำนวน 14 ยูนิต มีพื้นที่ใช้สอยเกือบ 1,000 ตารางเมตร/ยูนิต บนที่ดิน 12 ไร่ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 90-170 ล้านบาท/ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าเฉพาะผู้บริหารและเจ้าของกิจการ ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเริ่มส่งมอบให้ลูกบ้านได้ตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2562 เป็นต้นไป

          "ที่ผ่านมาบริษัทมีชื่อเสียงในการพัฒนาคอนโดมิเนียมหรูระดับซูเปอร์ ลักซ์ชัวรี่มากว่า 15 ปี ซึ่งลูกค้าให้ความไว้วางใจ การพัฒนาโครงการบ้านแนวราบจึงไม่ใช่เรื่องยาก และเชื่อว่าบริษัทสามารถพัฒนาได้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแน่นอน" นายสุริยน กล่าว

          ทั้งนี้ แผนการลงทุนของ เอ็มเจ วัน ในปี 2562 มีแผนพัฒนา 4-5 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ 2 โครงการ และคอนโดมิเนียมประมาณ 2-3 โครงการ โดยได้เปิดขายบ้านเดี่ยวไปแล้ว 1 โครงการ ที่เหลืออยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดิน คาดว่าจะได้ข้อสรุปแล้วลงทุนพัฒนาได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่โครงการคอนโดมิเนียมมิลเลอร์ เตรียมเปิดขายคอนโดหรูในซอยสุขุมวิท 40 เป็นอาคารโลว์ไรส์ จำนวน 24 ยูนิต ราคาเริ่มต้นยูนิตละ 20 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท โดยจะสร้างและตกแต่งแล้วเสร็จก่อนขายในช่วงเดือน มิ.ย.นี้

          ทั้งนี้ บริษัท เอ็มเจ วัน ตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 2562 ไว้กว่า 1,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยจะมาจากการเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2562 คาดยอดรับรู้รายได้กว่า 1,000 ล้านบาทเช่นกัน คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ซึ่งปัจจุบันมีแบ็กล็อก 1.5 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 3,000-5,000 ล้านบาท

          สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ ผู้ประกอบการต้องมีความระมัดระวังมากขึ้นในการเปิดโครงการใหม่ เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมทั้งในและนอกประเทศมีภาวะไม่สดใส ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวม เซ็กเมนต์ซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ยังมีอัตราเติบโตเนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจ

          น.ส.อลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าปิดการขายโครงการ มาวิสต้าจำนวน 14 หลัง ภายใน 1 ปี เนื่องจากมั่นใจว่าลูกค้ากลุ่มนักธุรกิจยังมีกำลังซื้อสูง ซึ่งในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ราคาบ้านตั้งแต่ 70 ล้านบาท/ยูนิต มีเพียง 140 ยูนิตในกรุงเทพฯ ถือว่าเป็นตลาดเฉพาะที่ยังเติบโตได้ดี