บิ๊กเนมอสังหาฯ เขย่า โรงแรม-ค้าปลีก แสนล้าน
Loading

บิ๊กเนมอสังหาฯ เขย่า โรงแรม-ค้าปลีก แสนล้าน

วันที่ : 27 มิถุนายน 2562
ระยะหลังๆ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในบ้านเราเติบโตแรง นักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้ามาพักผ่อนมากขึ้นจาก สถานการณ์ทางการเมืองสงบนิ่งโดยเฉพาะ จีน ฮ่องกง อินเดีย และกลุ่มประเทศในแถบยุโรป ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ขยายธุรกิจรุกตลาดโรงแรม ค้าปลีกสร้างรายได้มั่นคงยั่งยืนท่ามกลางตลาดอสังหาฯที่กำลังเปราะบาง จากสภาพเศรษฐกิจและมาตรการรัฐ
          ระยะหลังๆ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในบ้านเราเติบโตแรง นักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้ามาพักผ่อนมากขึ้นจาก สถานการณ์ทางการเมืองสงบนิ่งโดยเฉพาะ จีน ฮ่องกง อินเดีย และกลุ่มประเทศในแถบยุโรป ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ขยายธุรกิจรุกตลาดโรงแรม ค้าปลีกสร้างรายได้มั่นคงยั่งยืนท่ามกลางตลาดอสังหาฯที่กำลังเปราะบาง จากสภาพเศรษฐกิจและมาตรการรัฐ

          ล่าสุดบริษัทออลอินสไปร์ จำกัด(มหาชน) ประกาศปักหมุดช็อปปิ้งมอลล์ย่านระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซีใจกลางชลบุรีมูลค่า 600 ล้านบาท จับกลุ่มลูกค้าที่อยู่อาศัยคนในพื้นที่ ตั้งเป้าโกยรายได้เข้ากระเป๋าจากธุรกิจนี้ปีละ 200 ล้านบาท (สัญญาเช่า 29 ปี) หากเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2564 ส่วนค่ายออริจิ้นเข้าพื้นที่พัฒนามิกซ์ยูส โรงแรม ค้าปลีก ทำเลศรีราชา ไปก่อนหน้านี้ในช่วงแรกๆที่รัฐบาลประกาศเดินหน้าอีอีซี

          ขณะกลุ่มพร็อพเพอร์ตี ขยายอาณาจักรธุรกิจอสังหาฯแบบครบวงจรทั้งประเภทขายและ เช่า พร้อมตอกย้ำว่าแนวโน้มปี 2562 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยที่ยังคงเติบโต มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งความหลากหลายของทรัพยากรท่องเที่ยว และด้านที่ตั้งซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

          นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ระบุว่า หลังซื้อหุ้นบมจ.แกรนด์แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ เปิดพอร์ตโรงแรมกลุ่มเพอร์เฟค 7 แห่ง ทำรายได้เติบโตต่อเนื่อง โดยมองว่า โรงแรมสดใส ท่องเที่ยวเติบโต ส่งผลให้รายได้จากธุรกิจโรงแรมโตตามไปด้วย คาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 4,200 ล้านบาท คิดเป็น 20% ของรายได้รวม จากพอร์ตโรงแรมทั้ง 7 แห่ง รวม 2,077 ห้องพัก เผยแผนใน 2 ปีหน้า ตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจโรงแรมเพิ่มเป็น 5,300 ล้านบาท ในปี 2564

          ด้าน บมจ.สิงห์ เอสเตทหรือ "S" นักอนุรักษ์ผืนทะเลไทย มีโรงแรมหรูในมือย่านหัวเมืองใหญ่ มากถึง 37แห่ง นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สิงห์เอสเตท สะท้อนว่าประมาณเดือนสิงหาคมนี้จะเปิดโรงแรมใหม่ 2 แห่งในโครงการ CROSSROADSสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ซึ่งเป็นแฟล็กชิพของกลุ่มธุรกิจโรงแรม ใช้แบรนด์โรงแรมฮาร์ดร็อค และโรงแรมฮิลตัน รวม 200 ห้อง พร้อมมารีน่า

          ปัจจุบันธุรกิจโรงแรมมีทั้งหมด 37 โรง แบ่งเป็นโรงแรมในอังกฤษ 29 แห่ง กลุ่มเอาท์ริกเกอร์มีโรงแรม 6 แห่ง และยังมีโรงแรมที่เกาะสมุยและเกาะพีพี เมื่อรวมกับที่จะเปิดที่สาธารณรัฐมัลดีฟส์อีก 2 แห่ง รวมเป็น 39 แห่ง โดย 37 แห่งแรกจะเป็นการซื้อกิจการมาทั้งสิ้น เว้น 2 โรงแรมใหม่ที่สาธารณรัฐมัลดีฟส์เป็น 2 แห่งแรกที่บริษัทสร้างเอง

          "วันนี้ธุรกิจโรงแรมมีจำนวนห้องประมาณ 4,000-4,500 ห้อง และเริ่มรับรู้รายได้ โดยมีสัดส่วน 30% ของรายได้รวมทั้งบริษัท ดังนั้น สิงห์ เอสเตท มีแผนนำธุรกิจโรงแรมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยช่วงปลายปีนี้ โดยใช้ชื่อ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR"

          ขณะยักษ์ใหญ่ ทีซีซีกรุ๊ป อย่างเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ประกาศซื้อกิจการโรงแรมอีก 12 แห่ง ซึ่งไม่ต่างจากค่ายซีพี ที่มีโรงแรมในมือไม่น้อยเช่นกัน

          การรุกของธุรกิจอสังหา ริมทรัพย์ทั้งขายและเช่าครบวงจร นอกจากช่วยกระจายความเสี่ยงของดีเวลอปเปอร์แล้ว ยังเป็นการขยายอาณาจักร ชิงความเป็นเบอร์ต้นๆในสมรภูมินี้อีกด้วย

          'แนวโน้มปี2562อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยที่ยังคงเติบโต มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ