รับเหมาชิงเค้กแสนล.อานิสงส์บิ๊กโปรเจ๊กต์รัฐ
Loading

รับเหมาชิงเค้กแสนล.อานิสงส์บิ๊กโปรเจ๊กต์รัฐ

วันที่ : 3 ตุลาคม 2562
ยักษ์รับเหมาชิงเค้กเมกะโปรเจ็กต์แสนล้าน นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ ดึงนวัตกรรมเสริมแก้เหล็ก-วัสดุ-แรงงานขาดแคลน ด้าน รมช.คมนาคม "ถาวร เสนเนียม" ยันเอกชนได้อานิสงส์โครมใหญ่ ทั้ง 10 สนามบิน -ไฮสปีด-ทางด่วน

            ยักษ์รับเหมาชิงเค้กเมกะโปรเจ็กต์แสนล้าน นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ ดึงนวัตกรรมเสริมแก้เหล็ก-วัสดุ-แรงงานขาดแคลน ด้าน รมช.คมนาคม "ถาวร เสนเนียม" ยันเอกชนได้อานิสงส์โครมใหญ่ ทั้ง 10 สนามบิน -ไฮสปีด-ทางด่วน
นายอังสุรัสมิ์ อารีกุล นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ เผยว่า มูลค่าของอุตสาหกรรมก่อสร้างในประเทศอยู่ที่ 1.4 ล้านล้านบาทต่อปี ในฐานะสมาคมเราไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาวงการดังกล่าวด้วยการกระจายงานและสร้างการจ้างงานที่มีคุณภาพ พร้อมกับส่งเสริมการนำเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการก่อสร้าง อาทิ การนำเอาเทคโนโลยี BIM มาปรับใช้ ด้านทิศทางในปีนี้คาดว่าจะเติบโตโดยมีปัจจัยบวกมาจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมของภาครัฐและคอนโดมิเนียมตามแนวระนาบรถไฟฟ้า
            ทั้งนี้ในส่วนของสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯยังเล็งเห็นถึงปัญหาต่างๆ ที่พร้อมจะเร่งดำเนินการ อาทิ การขาดแคลนแรงงาน จึงมีความจำเป็นที่จะเร่งหาเข้ามาเสริมพร้อมกับเพิ่มทักษะเพื่อสร้างศักยภาพให้กับแรงงาน ด้านวัสดุก่อสร้างส่วนที่สำคัญและน่าจับตามอง คือ เหล็กไทยที่กำลังมีปัญหาในขณะนี้ ขณะเดียวกันทางสมาคมได้ส่งเสริมให้ตัวแทนผู้ผลิตคิดค้นวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย
            "ดูเหมือนว่าภาพรวมของการก่อสร้างในไทยยังมีสัญญาณที่ดี โดยเฉพาะการลงทุนภายในประเทศ คาดว่าจะเพิ่มโอกาสให้กับผู้รับเหมา ขณะเดียวกันด้านวัสดุก่อสร้างหลากหลายองค์กรมองหาโซลูชันและคิดค้นสินค้าใหม่ๆออกมาโดยเฉพาะเทรนด์รักษ์โลก อาทิ การวางเป้าจัดการของเสียในกระบวนการก่อสร้างจากทางเอสซีจี เป็นต้น และอีกมิติที่สำคัญและคาดว่าจะเข้มข้นโดยส่งผลให้อุตสาหกรรมก่อสร้างนี้เติบโตต่อไปอย่างแน่นอน คือ การลงทุนในพื้นที่ต่างๆของ EEC"
            สำหรับทิศทางอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในปี 2562 แนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น 6.5% จากปี 2561 แบ่งเป็นแรงส่งจากภาครัฐ 9% และเอกชน 3.5% การก่อสร้างจากภาครัฐที่คาดว่าเติบโตราว 9% นั้นคิดเป็นมูลค่า 8.15 แสนล้านบาท โครงการที่มาจากทางภาครัฐ ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ อาทิ รถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-คูคต) ทางด่วนพระราม 3 ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกตะวันตก และรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ -หนองคาย ขณะการก่อสร้างจากภาคเอกชนที่คาดว่าเติบโต 3.5% หรือคิดเป็น 5.6 แสนล้านบาท มีผลมาจากคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า โครงการที่น่าสนใจจากภาคเอกชน โครงการ วันแบงค็อก, เดอะฟอเรสเทียร์ และ แบงค็อก มอลล์ เป็นต้น
            นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เผยว่า เอกชนจะได้รับอานิสงส์ จากการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ เนื่องจากขณะนี้ ภาครัฐให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานเพราะจำเป็นอย่างมากต่อการพัฒนาประเทศทั้งการเดินทางและการขนส่งสินค้า ฉะนั้นทางกระทรวงคมนาคมเราจึงมุ่งเน้น ในเรื่องการจัดงบประมาณ การก่อสร้างทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รถไฟฟ้าสายสีส้ม ค.ร.ม.ได้ลงมติเป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ในอนาคตยังมีอีกหลากหลายโครงการ ยกตัวอย่างเช่น การลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC, มอเตอร์เวย์สายต่างๆ รถไฟรางคู่
            ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น การขนส่งทางอากาศ จะก่อสร้างเฟส 2 สนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งการก่อสร้างเพื่อรองรับการขยายตัวทางอากาศที่มีความแออัด ทั้งดอนเมืองและสุวรรณภูมิ โดยอาจจะเป็นสนามบินแห่งที่ 3 ของกรุงเทพฯ นอกจากนั้น สนามบินเชียงใหม่มีความแออัดอาจจะสร้าง สนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 หรือแม้แต่ภูเก็ตขณะนี้ค่อนข้างแออัดเช่นกัน ส่วนการก่อสร้างในภูมิภาคที่จะเชื่อมโลกเชื่อมไทยสู่เมืองรอง บริการด้วยใจ และหรือได้มาตรฐานครอบคลุมทุกพื้นที่ จากนี้ปี 2561-2567 รัฐบาลได้มีโครงการที่จะขยายสนามบินในภูมิภาค โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ 10 สนามบิน ด้านทางน้ำมีการก่อสร้างท่าเรือแห่งที่ 2 โดยจะเน้นการขนส่งทางน้ำเพื่อลดค่าใช้จ่าย ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นคาดว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างยังเติบโตอย่างแน่นอน