TAPACลุยอสังหาภูเก็ตพันล.ผนึก SPALI เสริมฐานแกร่ง
Loading

TAPACลุยอสังหาภูเก็ตพันล.ผนึก SPALI เสริมฐานแกร่ง

วันที่ : 23 พฤศจิกายน 2561
TAPAC ประกาศตั้ง "บริษัท เคอร์เซ่ จำกัด" จับมือ SPALI บุกภูเก็ตลุยพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ มูลค่าโครงการพันล้านบาท คาดเริ่มขายต้นปี 2562 หวังเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ส่งซิกทุกธุรกิจไปได้สวย เชื่อการผลิต จำหน่ายพลาสติกปี 2561 เข้าเป้า ส่วนรีเทล หรือการขายเครื่องสำอางเริ่มฟื้น
          TAPAC ประกาศตั้ง "บริษัท เคอร์เซ่ จำกัด" จับมือ SPALI บุกภูเก็ตลุยพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ มูลค่าโครงการพันล้านบาท คาดเริ่มขายต้นปี 2562 หวังเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ส่งซิกทุกธุรกิจไปได้สวย เชื่อการผลิต จำหน่ายพลาสติกปี 2561 เข้าเป้า ส่วนรีเทล หรือการขายเครื่องสำอางเริ่มฟื้น
          บริษัท ทาพาโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ TAPAC รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 10/2561 มีมติการจัดตั้งบริษัทย่อย 1 แห่ง โดยจัดตั้ง "บริษัท เคอร์เซ่ จำกัด" เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำนวน  1 ล้านหุ้น และบริษัทถือสัดส่วน 69.9997% ส่วนบริษัท ภูเก็ต เอสเตท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI ถือสัดส่วนหุ้น 30% ส่วนนายสุทธิพงศ์ พัวพันประเสริฐ นายมนัสศิริ ยุถตะนันท์ และนายบวร ภูวนาศศรัญญา ถือสัดส่วน 0.001%
          ลุยอสังหาภูเก็ตพันล.
          ด้านแหล่งข่าวจากห้องค้าหลักทรัพย์ เปิดเผยประเด็นดังกล่าว โดยคาดว่า TAPAC จะจัดตั้งบริษัทย่อยได้ทันที สำหรับพื้นที่ในการขยาย และพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คือพื้นที่ติดชายทะลที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งบมจ.ศุภาลัยมีพื้นที่อยู่แล้ว โดยโครงการที่จะก่อสร้างเป็นรูปแบบวิลล่า มูลค่าโครงการราวพันล้านบาท สำหรับโครงการแรกจะเป็นการพัฒนาโครงการในพื้นที่ 5 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมด 22 ไร่ เบื้องต้นคาดจะมีราคาขายเฉลี่ยต่อหลังอยู่ราว 15 ล้านบาท ทั้งนี้คาดจะเริ่มก่อสร้างและขายโครงการดังกล่าวได้ตั้งแต่ต้นปี 2562 เป็นต้นไป และจะแล้วเสร็จ หรือขายโครงการหมดได้ภายในปี 2564
          "การร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการนำความเชี่ยวชาญจาก TAPAC ซึ่งมีบริษัทย่อยทำธุรกิจที่สวีเดน เข้ามาสร้างวิลล่าที่ภูเก็ต เพื่อตอบโจทย์ให้กับลูกค้าชาวต่างชาติ ส่วนศุภาลัยเขามีความเข้มแข็งในเรื่องของการตลาด รวมถึงพื้นที่ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้การร่วมมือครั้งนี้น่าจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับทั้ง 2 บริษัท" แหล่งข่าวจากห้องค้าหลักทรัพย์กล่าว
          คาดว่าโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่จะเริ่มดำเนินธุรกิจ จะช่วยผลักดันการเติบโตของ TAPAC ให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่จะมีรายได้ หรือสัดส่วนรายได้เข้ามาเท่าไรนั้นยังไม่สามารถประเมินได้ชัดเจน คงต้องรอให้เห็นความคืบหน้าของโครงการที่ภูเก็ตก่อน
          ส่องธุรกิจไปได้สวย
          อย่างไรก็ตาม TAPAC อยู่ระหว่างปิดงบผลประกอบการงวดปี 2560-2561 สิ้นสุดเดือนตุลาคม 2561 แต่คาดว่าทุกๆ ธุรกิจมีอัตราการเติบโตในระดับดี โดยเฉพาะธุรกิจการผลิตและจัดจำหน่ายพลาสติก คาดว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย ขณะที่ธุรกิจอสังหารอมทรัพย์ที่สวีเดน ยังคงต้องรอดูว่าจะสามารถรับรู้ยอดโอนกรรมสิทธิ์ได้ตามเป้าหรือไม่ ส่วนธุรกิจรีเทลหรือการจำหน่ายเครื่องสำอาง เริ่มมีทิศทางที่ดี โดยตัวเลขการขาดทุนเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งหาก TAPAC สามารถเปิดสาขาให้ครบได้ถึง 5-6 สาขา คาดจะช่วยผลักดันรายได้ให้สูงขึ้น และน่าจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการลงทุนเปิดสาขาใหม่ได้
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ