ทรัพย์คณา ยึดตลาดบ้านนครปฐม งัดแลนด์แบงก์1,000ไร่เจาะลูกค้า อีอีซี-ปทุม
Loading

ทรัพย์คณา ยึดตลาดบ้านนครปฐม งัดแลนด์แบงก์1,000ไร่เจาะลูกค้า อีอีซี-ปทุม

วันที่ : 26 ธันวาคม 2561
"ทรัพย์คณา" เดินหน้าลงทุนอสังหาฯนครปฐมต่อเนื่อง ตั้งเป้าปี 2562 เตรียมลงทุนเพิ่ม 3 โครงการ งบฯ 1,000 ล้านบาท ตรึงมาร์เก็ตแชร์ 20-30% ย้ำจุดเด่นทำเล-ราคา-บริการหลังการขายสำคัญ ชี้ช่วง 2-3 ปี ราคาที่ดินพุ่ง 1.2-1.5 แสนบาท/ตร.ว. พร้อมงัดแลนด์แบงก์ย่านสุวินทวงศ์ ผุดโครงการรับอีอีซี สยายปีกปักหมุดย่านบางแคผุดคอนโดฯไฮไรส์แข่งเมืองกรุง
          "ทรัพย์คณา" เดินหน้าลงทุนอสังหาฯนครปฐมต่อเนื่อง ตั้งเป้าปี 2562 เตรียมลงทุนเพิ่ม 3 โครงการ งบฯ 1,000 ล้านบาท ตรึงมาร์เก็ตแชร์ 20-30% ย้ำจุดเด่นทำเล-ราคา-บริการหลังการขายสำคัญ ชี้ช่วง 2-3 ปี ราคาที่ดินพุ่ง 1.2-1.5 แสนบาท/ตร.ว. พร้อมงัดแลนด์แบงก์ย่านสุวินทวงศ์ ผุดโครงการรับอีอีซี สยายปีกปักหมุดย่านบางแคผุดคอนโดฯไฮไรส์แข่งเมืองกรุง

          ทุ่มพัน ล.ผุด 3 โครงการ

          นายวริศนันท สุทธิเลิศวรกุล กรรมการบริหาร บริษัท ทรัพย์คณา พร้อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใน จ.นครปฐม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทดำเนินการพัฒนาอสังหาฯมากว่า 10 ปี ใน จ.นครปฐม ภายใต้แบรนด์บ้านอยู่สบาย ปิดการขายไปแล้ว 10 โครงการ ซึ่งทำเลหลักคือบริเวณศาลากลางใหม่ จ.นครปฐม ขณะนี้มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย 4-5 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นทำเลที่เริ่มห่างจากศาลากลางใหม่ออกมา และใกล้สนามกีฬาจังหวัดนครปฐม โดยขายไปแล้วกว่า 70% และคาดว่าปิดการขายได้ภายในปี 2563 และส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยว ราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป จนถึง 10 ล้านบาท ส่วนทาวน์เฮาส์ยังมีสัดส่วนน้อยที่ประมาณ 20%

          ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าขยายการลงทุน อสังหาฯปีละ 3-5 โครงการ โดยปี 2562 ตั้งเป้าลงทุน 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการบ้านสวนอยู่สบาย ตั้งอยู่ใกล้ศาลากลางใหม่จังหวัดนครปฐม บนเนื้อที่ 60 ไร่ ทั้งหมด 300 ยูนิต งบประมาณลงทุน 600 กว่าล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 2.โครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ ตั้งอยู่ใกล้สนามกีฬาจังหวัดนครปฐม ประมาณ 200 ยูนิต บนเนื้อที่ 50 ไร่ เงินลงทุน 300 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ และ 3.โครงการเชิงอาคารพาณิชย์ เป็นขยายการลงทุนไปที่ อ.นครชัยศรี บริเวณใกล้เทสโก้ โลตัส นครชัยศรี ทั้งหมด 50 ยูนิต เงินลงทุนรวมที่ดิน 200 ล้านบาท

          โดยทั้ง 3 โครงการจะเริ่มสร้างกลางปี 2562 คาดแล้วเสร็จกลางปี 2563 ซึ่งระดับราคา ประมาณ 3-9 ล้านบาท ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ระดับเงินเดือนประมาณ 3 หมื่นบาท ขึ้นไป มีทั้งกลุ่มที่เป็นคนในท้องที่ และคนใต้ที่เดินทางขึ้นมา รวมถึงกลุ่มผู้ปกครองที่ส่งลูกหลานเข้ามาเรียนในนครปฐม โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยศิลปากร เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีมาร์เก็ตแชร์ในตลาดนครปฐม ประมาณ 20-30% โดยเฉพาะบ้านเดี่ยว

          ราคาที่ดินนครปฐมพุ่ง 2 เท่า

          นายวริศนันทกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้บริษัทเริ่มพัฒนาโครงการที่เป็นทาวน์เฮาส์เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินใน จ.นครปฐม สูงขึ้นเกือบ 100% หรือ 2 เท่าตัว โดยเฉพาะโซนในเมือง ถนนเพชรเกษมเข้าไปตัวเมืองเก่า บริเวณพระปฐมเจดีย์ โดยราคาขึ้นสูงถึง 120,000-150,000 บาทต่อตารางวา จากเดิมราคาอยู่ที่ 60,000-70,000 บาทต่อ ตารางวา เฉลี่ยแล้วราคาที่ดินในนครปฐมจะขึ้นปีละประมาณ 20-30% ขณะเดียวกัน ถนนเพชรเกษมเส้นทางไป จ.ราชบุรี ก็เริ่มมีความคึกคักมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่นครปฐมจะมีโครงการรถไฟฟ้าผ่าน และมีถนนตัดใหม่เลี่ยงเมือง จะทำให้นครปฐมเกิดความคึกคักมากขึ้น

          ทั้งนี้ ในปีหน้าได้วางกลยุทธ์ในการพัฒนาทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ และบ้านแฝด เพื่อช่วยลดต้นทุน เช่นเดียวกับกลุ่มผู้บริโภคอาจจะลดระดับราคาบ้านที่จะซื้อจาก 7-9 ล้านบาท ลงมาที่ 3-5 ล้านบาท เป็นผลจากธนาคารเริ่มเข้มงวดการปล่อยกู้ ส่งผลให้ปัจจุบันเกิดการรีเจ็กต์กว่า 50% และจากแนวโน้มมาตรการขึ้นดอกเบี้ยของแบงก์ชาติ มองว่าผู้ประกอบการรายเล็กจะหายไป ขณะนี้ในนครปฐมหายไปเกือบครึ่งแล้ว แน่นอนว่าปีหน้าธุรกิจอสังหาฯจะเหนื่อยมาก ด้านบริษัทอสังหาฯขนาดใหญ่ แม้จะได้เปรียบในเรื่องต้นทุน แต่จะได้รับผลกระทบ จากการที่ลูกค้าไม่สามารถกู้เงินได้ โดยมองว่าระยะสั้นจะกระทบ แต่ระยะยาวจะมั่นคงกว่า

          "จุดเด่นของทรัพย์คณา คือ มีแลนด์แบงก์เดิมอยู่บ้าง ต้นทุนที่ดินถูก สร้างในทำเลที่เหมาะสม โดยแบบบ้านอยู่ประมาณ 2-5 ล้านบาท แมตช์กับรายได้และกำลังซื้อของผู้บริโภค และมีราคาคุ้มค่ากับคุณภาพ รวมถึงใช้ไฟแนนซ์จากสถาบันการเงินน้อยไม่ถึง 10% และมุ่งเน้นการบริการหลังการขาย มีการปรึกษากับสถาบันการเงินอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมตัวให้กับลูกค้า ทำให้ผู้บริโภคสามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักเป็นกลุ่มรายได้ปานกลาง"

          เตรียมงัดแลนด์แบงก์พันไร่

          นายวริศนันทกล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน บริษัทมีแลนด์แบงก์ประมาณ 1,000 ไร่ แบ่งเป็น ที่ดิน จ.ปทุมธานี บริเวณคลอง 5 และ 6 ใกล้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เนื้อที่ 600 ไร่, จ.นครปฐม 250 ไร่, สุวินทวงศ์ 100 ไร่ และอ่อนนุช 70 ไร่ โดยมีที่ดินบริเวณสุวินทวงศ์ ประมาณ 64 ไร่ อยู่ใกล้จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็น 1 ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีแนวโน้มมีคนเข้าไปอยู่อาศัยจำนวนมาก อยู่ห่างจากสถานีรถไฟความเร็วสูงตามแผนของรัฐบาลไม่เกิน 4-5 กิโลเมตร บริษัทจึงกำลังพิจารณาการลงทุนว่าจะเป็นรูปแบบใด โดยเฉพาะทาวน์เฮาส์และอาคารพาณิชย์ที่มีความเป็นไปได้ โดยอาจจะปรับเปลี่ยนเทคนิคการก่อสร้างเป็นระบบพรีแคสต์และปรับยูนิตให้เล็กลง เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท เช่นเดียวกันกับทำเลใน จ.ปทุมธานี ที่มีกลุ่มวัยทำงานอยู่ค่อนข้างมาก

          นอกจากนี้ ยังกำลังเล็งหาที่ดินประมาณ 50 ไร่ บริเวณบางแค เพื่อพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมไฮไรส์ ประมาณ 20-30 ชั้น ระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่เริ่มทำงาน รายได้ปานกลางประมาณ 20,000 บาทขึ้นไป ผ่อนประมาณเดือนละ 6,000-8,000 บาท เนื่องจากเป็นทำเลชุมชนหนาแน่น และมีโครงสร้างพื้นฐานและขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้าพร้อม

          อย่างไรก็ตาม ยังเล็งพัฒนาอสังหาฯในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ตั้งเป้าเจาะทำเลห้างและแนวรถไฟฟ้า และ จ.กาญจนบุรี ที่ปัจจุบันมีที่ดินบริเวณเขตเศรษฐกิจพิเศษแล้ว แต่ยังต้องหาพื้นที่เพื่อขยาย เพิ่มเติมด้วย โดยเป็นพื้นที่ที่น่าสนใจ เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อทวายได้ แต่ทั้งนี้ต้องศึกษาค่อนข้างเยอะ ต้องคำนึงถึงทำเลและราคาที่ดินเป็นหลัก ซึ่งยังคงยึดราคา 2-5 ล้านบาท ให้เป็นคอร์บิสซิเนส ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าปี 2562 ยอดขาย 600 ล้านบาท และปี 2563 มุ่งทำยอดขายสูงถึง 1,000 ล้านบาท
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ