NCH ปรับเกมรุกแนวราบปี 2562 เดินหน้าเปิดโครงการใหม่ มูลค่าราว 3 พันล้านบาท เติมแบ็กล็อกเพิ่ม แย้มรายได้โตต่อเนื่องขานรับพอร์ตลูกค้าขยายตัว
          นายสมนึก ตันฑเทิดธรรม กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2562 บริษัทให้ความสำคัญกับการทำตลาดโครงการแนวราบ อาทิ บ้านเดี่ยว, บ้านแฝดในโซนกรุงเทพฯและปริมณฑลมากขึ้น จำนวน 3-5 โครงการ คิดเป็นมูลค่าราว 3 พันล้านบาท เนื่องจากความต้องการขยายตัวต่อเนื่อง ประกอบกับภาวะการแข่งขันในส่วนของคอนโดมิเนียมค่อนข้างรุนแรงจึงมองเป็นโอกาสในการสร้างยอดขายให้กับธุรกิจในอนาคต ซึ่งบริษัทได้มีการจัดหาที่ดินรองรับการพัฒนาไว้เรียบร้อยแล้ว
          แบ็กล็อกแน่น-ปีหมูสวย
          โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ราว 3 พันล้านบาท จากโครงการทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมคาดว่าจะสามารถทยอยส่งมอบและรับรู้รายได้ต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 1/2562 แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากโครงการแนวราบ 80% และอีก 20% คอนโดมิเนียม ดังนั้นจากแผนการดำเนินงานต่างๆ คาดว่าจะช่วยผลักดันผลงานปีหน้าเติบโตต่อเนื่องจากปีนี้
          นอกจากนี้ บริษัทยังมองหาโอกาสเข้าซื้อที่ดินอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการขยายโครงการในอนาคต โดยปัจจุบันบริษัทมีที่ดินอีกหลาย 100 ไร่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ซึ่งจะสามารถรองรับการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนธุรกิจในอนาคต
          "ตลาดคอนโดปีหน้ายังมีเกณฑ์ LTV ที่อาจเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค เพราะมีบางส่วนเป็นการซื้อเพื่อการลงทุน ดังนั้นเราเองจึงหันมาทำตลาดแนวราบมากขึ้น เพราะมองเป็นเรียลดีมานด์หรือการซื้อเพื่อการอยู่อาศัย และเป็นตลาดที่ธุรกิจมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามที่วางไว้คงทำให้สัดส่วนรายได้แนวราบของบริษัทขยับเพิ่มเป็น 90% ในปี 2562" นายสมนึกกล่าว
          ผลงานปีนี้เข้าเป้า
          สำหรับรายได้ในปี 2561 นี้คาดว่าจะขยายตัวเมื่อเทียบกับปี 2560 ที่ 1.45 พันล้านบาท หลังงวด 9 เดือนแรกธุรกิจมีรายได้แล้ว 1.12 พันล้านบาท รวมทั้งยังมียอดขายรอโอนอีกจำนวนมาก ตลอดจนยังมีโครงการรอขายที่พร้อมโอนในทำเลต่างๆ ส่วนทิศทางผลงานในไตรมาส 4/2561 บริษัทประเมินน่าจะเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2561 เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ทำให้ธุรกิจมี Backlog ที่รอรับรู้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งยังอาจจะมียอดขายโครงการที่อยู่อาศัยพร้อมโอนเข้ามาเสริม