อสังหาหนีธุรกิจหลัก
Loading

อสังหาหนีธุรกิจหลัก

วันที่ : 17 มกราคม 2562
ไรมอนแลนด์ชี้อสังหาฯ 2-3 ปีเสี่ยงสูง ต้องปรับพอร์ตหารายได้จากธุรกิจสร้างรายได้ประจำ ตั้งเป้า 10 ปี เพิ่มสัดส่วน 50%
          ไรมอนแลนด์ชี้อสังหาฯ 2-3 ปีเสี่ยงสูง ต้องปรับพอร์ตหารายได้จากธุรกิจสร้างรายได้ประจำ ตั้งเป้า 10 ปี เพิ่มสัดส่วน 50%

          นายไลโอเนล ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้ามีความเสี่ยงสูงจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจ ทั้งจากปัจจัยภายในประเทศและเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวน ทำให้ต้องปรับแผนการลงทุนโดยหันมาให้ความสำคัญกับธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำมากขึ้น จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่เพียง 5-10% ตั้งเป้าว่าภายใน 10 ปีข้างหน้าสัดส่วนรายได้จากอสังหาฯ เพื่อการขาย และธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำระยะยาวจะมีสัดส่วน 50:50

          ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะลงทุนธุรกิจสร้างรายได้ประจำระยะยาวด้วยเงินลงทุนกว่า 5,300 ล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจการแพทย์ 1,300 ล้านบาท โรงแรมอีก 4,000 ล้านบาท โดยได้เจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรผู้ให้บริการเด็กหลอดแก้ว ที่มีการเปิดศูนย์การแพทย์ที่ให้บริการแล้วในประเทศออสเตรเลียและสิงคโปร์ โดยในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ จะเปิดตัวโครงการอาคารสำนักงานให้เช่า ชื่อ OCC หรือ One City Center ตั้งอยู่ตรงข้ามกับศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี มีพื้นที่ 6.5 หมื่นตารางเมตร (ตร.ม.) แบ่งเป็นพืนที่ค้าปลีก 4,000 ตร.ม. ภายในโครงการสำนักงานดังกล่าวมีการจัดสรรพื้นที่สำหรับสร้างศูนย์การแพทย์ เพื่อรองรับพันธมิตรซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญด้านการทำเด็กหลอดแก้ว ผสมเทียม การเก็บไข่แช่แข็ง ซึ่ง คาดว่าจะเปิดบริการได้ตั้งแต่ปี 2565

          ขณะเดียวกัน ยังมีแผนจะเปิดศูนย์การแพทย์ ในโครงการทอสคาน่า เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เพื่อใช้เป็นสถานพักฟื้นสำหรับคนที่ทำผสมเทียม ในรูปแบบศูนย์สุขภาพการเจริญพันธุ์ รวมไปถึงศูนย์เวชศาสตร์การชะลอวัย เป็นต้น

          "ปัจจุบัน ธุรกิจการให้บริการเด็กหลอดแก้วเติบโตขึ้นมาก หลังจากจีนยกเลิกนโยบายลูก 1 คน ทำให้คนจีนสนใจที่จะมีลูกคนที่ 2 โดยมีกว่า 90 ล้านคู่ที่ต้องการจะใช้บริการดังกล่าว ซึ่งแต่ละปีประเทศไทยมีคนจีนมาใช้บริการ 1.2 แสนคน/ปี โดยศูนย์การแพทย์ของบริษัทตั้งเป้าผู้ใช้บริการปีละ 2,500 คู่ โดยสามารถรองรับได้สูงถึง 4,000 คู่/ปี โดยคิดค่าบริการ 2.5-3.5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ" นายลี กล่าว

          นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะเดินหน้าลงทุนธุรกิจโรงแรมแนวคิดใหม่ในรูปแบบ Food Hotel โดยจะเน้นการบริการทางด้านอาหารที่หลากหลาย โดยจะลงทุน 100 ล้านบาทปรับปรุงพื้นที่ค้าปลีกในโครงการวิว หน้าคอนโด เดอะ ริเวอร์ บนถนนเจริญกรุง ใกล้ไอคอนสยาม เป็นโรงแรม 70 ห้อง ส่วนอีกแห่งย่านสุขุมวิทจะพัฒนาเป็นรูปแบบ New Age Hotel เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ภายในห้องสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นเป็นห้องประชุมขนาดย่อมและสามารถใช้พักผ่อนได้สะดวก

          สำหรับธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม บริษัทยังร่วมมือกับกลุ่มบ้านหญิง กรุ๊ป เพื่อขยายธุรกิจร้านอาหารต่อยอดจากสาขาที่มีอยู่ในสิงคโปร์ 2 สาขา โดยปีนี้จะเพิ่มสาขาในสิงคโปร์อีก 2 สาขา และมีแผนจะขยายแฟรนไชส์ร้านอาคารออกสู่ภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ ไต้หวัน กัมพูชา และจีน

          ทั้งนี้ ในปีนี้มีแผนเปิดตัวคอนโด ลักซ์ชัวรี่ 2 โครงการ ทำเลพญาไทและสุขุมวิท 38 มูลค่ารวม 1.1 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายทั้งปี 5,500 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10%  จากปีก่อนที่มียอดขาย 5,000 ล้านบาท
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ