เพซ เร่งปรับโครงสร้างหนี้ก่อนเส้นตาย
วันที่ : 12 พฤศจิกายน 2562
"ชาญ บูลกุล" ลุ้น "เพซดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น" ปรับโครงสร้างหนี้ ก่อนครบกำหนดเส้นตายภายในเดือนพ.ย.นี้ หวั่นเข้าแผนฟื้นฟูฯหากไม่รีบดำเนินการ คาด 3-4 สัปดาห์มีความชัดเจนของแนวทาง เชื่อเร่งหาพันธมิตรมาช่วยหนุนเรื่องเงินทุน
"ชาญ บูลกุล" ลุ้น "เพซดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น" ปรับโครงสร้างหนี้ ก่อนครบกำหนดเส้นตายภายในเดือนพ.ย.นี้ หวั่นเข้าแผนฟื้นฟูฯหากไม่รีบดำเนินการ คาด 3-4 สัปดาห์มีความชัดเจนของแนวทาง เชื่อเร่งหาพันธมิตรมาช่วยหนุนเรื่องเงินทุน
นายชาญ บูลกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท บรุ๊คเคอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BROOK หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE กล่าวว่า ปัญหาการปรับโครงสร้างหนี้ของ PACE ส่วนตัวมองว่าจำเป็นต้องเร่ง ดำเนินการให้จบก่อนครบกำหนดเส้นตายใน 30 วันหรือภายในช่วงสิ้นเดือนพ.ย.นี้ เพราะถ้า PACE หาวิธีการปรับโครงสร้างหนี้ได้ทันก็อาจไม่ต้องเดินหน้าเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ แต่หากไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทันก็อาจต้องเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งจะไม่ส่งผลดี ต่อทั้งบริษัทและเจ้าหนี้ต่างๆ
ทั้งนี้มองว่าปัจจุบันหาก PACE สามารถทำอะไรได้ ก็ควรดำเนินการไปก่อนเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้ต่อ เพราะหากต้องเข้าแผนฟื้นฟูฯก็อาจส่งผลให้บริษัททำอะไรได้ไม่มากนัก จึงจะเห็นว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา PACE ได้ขออนุมัติที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ขยายเวลาการไถ่ถอนหุ้นกู้วงเงิน 1,219 ล้านบาท ออกไปอีก 3 ปี และได้ขายหุ้นทั้งหมด ในบริษัท วาย แอล พี จำกัด (YLP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ให้กับ BROOK และ บริษัท เอ็มซีแอล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
ขณะที่คาดว่าภายใน 3-4 สัปดาห์ ข้างหน้านั้น จะมีความชัดเจนการปรับโครงสร้างหนี้ของ PACE ออกมา เพราะหาก ยังเลือกแนวทางไม่จบก็คิดว่าการเดินหน้าแก้ปัญหาหนี้ ในครั้งนี้ก็คงไม่สามารถเดินหน้า ต่อได้ ซึ่งแนวทางการแก้ปัญหานั้นต้องทำอย่างรวดเร็ว แต่ก็ขึ้นอยู่การเจรจาระหว่าง PACE และธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB ว่าตกลงกันได้แบบไหน
"ปัญหา PACE ตอนนี้คือต้องหาเงินมาพัฒนาโครงการที่มีอยู่ให้แล้วเสร็จก่อนโดยเร็ว เพื่อให้แต่ละโครงการเริ่มรับรู้ รายได้เข้ามา ในส่วนของ PACE ก็อาจต้องเร่งเจรจาหาพันธมิตรมาช่วยเรื่องเงินทุน เพราะบางโครงการใช้เงินลงทุนอีก ไม่มาก เช่น โครงการมหาสมุทรที่ปัจจุบันยังขาดเงินทำคลับเฮ้าอีก 500-600 ล้านบาท ก็จะก่อสร้างแล้วเสร็จ"
ส่วนกรณีที่ PACE ขายหุ้น ทั้งหมดของบริษัทย่อย YLP มูลค่า 348.56 ล้านบาท ให้กับ BROOK และบริษัท เอ็มซีแอล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดนั้น ซึ่งเรื่องนี้เหมือนการแปลงหนี้เป็นหุ้นให้กับเจ้าหนี้ ซึ่งทำให้ PACE สามารถเคลียร์หนี้ที่มีกับ BROOK เรียบร้อยแล้วทั้งหมด โดยบริษัทกำลังคิดว่าจะนำหุ้น YLP ไปขายต่อ เพราะเป็นบริษัททำธุรกิจอสังหาฯที่ดีและมีความเสี่ยงน้อย ซึ่งมีโครงการอยู่จำนวน 36 ยูนิต มูลค่าราว 2,800 ล้านบาท
นายชาญ บูลกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท บรุ๊คเคอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BROOK หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE กล่าวว่า ปัญหาการปรับโครงสร้างหนี้ของ PACE ส่วนตัวมองว่าจำเป็นต้องเร่ง ดำเนินการให้จบก่อนครบกำหนดเส้นตายใน 30 วันหรือภายในช่วงสิ้นเดือนพ.ย.นี้ เพราะถ้า PACE หาวิธีการปรับโครงสร้างหนี้ได้ทันก็อาจไม่ต้องเดินหน้าเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ แต่หากไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทันก็อาจต้องเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งจะไม่ส่งผลดี ต่อทั้งบริษัทและเจ้าหนี้ต่างๆ
ทั้งนี้มองว่าปัจจุบันหาก PACE สามารถทำอะไรได้ ก็ควรดำเนินการไปก่อนเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้ต่อ เพราะหากต้องเข้าแผนฟื้นฟูฯก็อาจส่งผลให้บริษัททำอะไรได้ไม่มากนัก จึงจะเห็นว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา PACE ได้ขออนุมัติที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ขยายเวลาการไถ่ถอนหุ้นกู้วงเงิน 1,219 ล้านบาท ออกไปอีก 3 ปี และได้ขายหุ้นทั้งหมด ในบริษัท วาย แอล พี จำกัด (YLP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ให้กับ BROOK และ บริษัท เอ็มซีแอล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
ขณะที่คาดว่าภายใน 3-4 สัปดาห์ ข้างหน้านั้น จะมีความชัดเจนการปรับโครงสร้างหนี้ของ PACE ออกมา เพราะหาก ยังเลือกแนวทางไม่จบก็คิดว่าการเดินหน้าแก้ปัญหาหนี้ ในครั้งนี้ก็คงไม่สามารถเดินหน้า ต่อได้ ซึ่งแนวทางการแก้ปัญหานั้นต้องทำอย่างรวดเร็ว แต่ก็ขึ้นอยู่การเจรจาระหว่าง PACE และธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB ว่าตกลงกันได้แบบไหน
"ปัญหา PACE ตอนนี้คือต้องหาเงินมาพัฒนาโครงการที่มีอยู่ให้แล้วเสร็จก่อนโดยเร็ว เพื่อให้แต่ละโครงการเริ่มรับรู้ รายได้เข้ามา ในส่วนของ PACE ก็อาจต้องเร่งเจรจาหาพันธมิตรมาช่วยเรื่องเงินทุน เพราะบางโครงการใช้เงินลงทุนอีก ไม่มาก เช่น โครงการมหาสมุทรที่ปัจจุบันยังขาดเงินทำคลับเฮ้าอีก 500-600 ล้านบาท ก็จะก่อสร้างแล้วเสร็จ"
ส่วนกรณีที่ PACE ขายหุ้น ทั้งหมดของบริษัทย่อย YLP มูลค่า 348.56 ล้านบาท ให้กับ BROOK และบริษัท เอ็มซีแอล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดนั้น ซึ่งเรื่องนี้เหมือนการแปลงหนี้เป็นหุ้นให้กับเจ้าหนี้ ซึ่งทำให้ PACE สามารถเคลียร์หนี้ที่มีกับ BROOK เรียบร้อยแล้วทั้งหมด โดยบริษัทกำลังคิดว่าจะนำหุ้น YLP ไปขายต่อ เพราะเป็นบริษัททำธุรกิจอสังหาฯที่ดีและมีความเสี่ยงน้อย ซึ่งมีโครงการอยู่จำนวน 36 ยูนิต มูลค่าราว 2,800 ล้านบาท
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ