คลังเล็งเปิดตลาดหุ้นชุมชน
Loading

คลังเล็งเปิดตลาดหุ้นชุมชน

วันที่ : 11 ธันวาคม 2562
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยในงานสัมมนาเศรษฐกิจฐานรากพลิกความเชื่อมั่นประเทศไทย ว่าในช่วงต้นปีหน้ากระทรวงการคลังเตรียมเปิดตลาดทุนรูปแบบใหม่ โดยสร้างให้เป็นตลาดทุนสำหรับชาวบ้านที่ประกอบธุรกิจขนาดเล็ก
          แหล่งใหม่ระดมทุนรายย่อย หารือร่วมกลต.ปี63เกิดแน่

          นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยในงานสัมมนาเศรษฐกิจฐานรากพลิกความเชื่อมั่นประเทศไทย ว่าในช่วงต้นปีหน้ากระทรวงการคลังเตรียมเปิดตลาดทุนรูปแบบใหม่ โดยสร้างให้เป็นตลาดทุนสำหรับชาวบ้านที่ประกอบธุรกิจขนาดเล็ก หรือเป็นวิสาหกิจชุมชน หรือสตาร์ทอัพ สามารถเข้ามาระดมทุนผ่านตลาดทุนดังกล่าวได้ในลักษณะเดียวกันกับการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) หรือตลาดเอ็มเอไอ หากทำได้สำเร็จ เชื่อว่าจะเป็นช่องทางสำคัญให้กับบรรดาเอสเอ็มอีขนาดเล็กจริง ๆ มีช่องทางใหม่ในการหาแหล่งเงินทุนมาพัฒนาธุรกิจของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น

          สำหรับการดำเนินการดังกล่าว กระทรวงการคลังได้ทำงาน ร่วมกับ ตลท. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ซึ่งที่ผ่านมาได้หารือกันไปแล้วในเบื้องต้น โดยทุกหน่วยงานพร้อมร่วมกันสนับสนุนการระดมทุนในรูปแบบดังกล่าวออกมาให้ได้ในช่วงปี 63 ส่วนรายละเอียดหลักเกณฑ์ของการระดมทุน รวมทั้งการจดทะเบียน และเงื่อนไขการซื้อขายหน่วยลงทุนต่าง ๆ ทาง ตลท. ก.ล.ต. และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย จะไปจัดทำรูปแบบที่เหมาะสมมาเสนออีกครั้งโดยเน้นว่า จะต้องให้ผู้ประกอบธุรกิจที่อยู่ในเศรษฐกิจฐานรากต้องได้รับประโยชน์มากที่สุด

          "รูปแบบที่ออกมาจะเป็นการลงทุนอีกกระดาน แยกออกมาจากการซื้อขายหลักทรัพย์ใน ตลท. หรือตลาดเอ็มเอไอ โดยจะมีเฉพาะผู้ประกอบธุรกิจขนาดเล็กจริง ๆ หรือไมโครเอสเอ็มอี ธุรกิจชุมชน วิสาหกิจชุมชน สตาร์ทอัพ เข้ามาใช้ช่องทางนี้ระดมทุนได้ และถ้าหากธุรกิจเหล่านี้เข้ามาจดทะเบียนแล้ว เมื่อธุรกิจโตขึ้นก็สามารถไปจดทะเบียนในตลาดใหญ่ได้ โดยรูปแบบดังกล่าวในต่างประเทศก็ทำ อย่างเช่นในประเทศจีน ที่ภาครัฐเข้าไปช่วยส่งเสริมถึงหมู่บ้าน โดยหาทางสนับสนุนธุรกิจของชาวบ้านขึ้นมาจนสามารถพัฒนา และเข้ามาจดทะเบียนได้"

          นายอุตตม กล่าวว่า ตลาดเหล่านี้จะสร้างไว้สำหรับคนตัวเล็ก หลักเกณฑ์จะแตกต่างจากการลงทุนรูปแบบเดิม แต่มีลักษณะการลงทุนคล้ายกัน เรื่องนี้ถือเป็นความร่วมมือกันพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เพราะหากดูธุรกิจรายเล็ก ๆ ของไทย ส่วนใหญ่มีศักยภาพที่เติบโตได้ เพียงแต่ต้องมีความร่วมมือลงไปช่วยสนับสนุน นอกจากการส่งเสริมเรื่องดังกล่าวแล้ว ตลท. ก.ล.ต. และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ยังได้เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านด้วยการให้ความรู้ทางการเงิน และส่งเสริมให้เกิดสถาบันการเงินในชุมชนที่มีคุณภาพด้วย

          นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส. ได้เตรียมเงินสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย วงเงิน 50,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี ระยะเวลา 3 ปี หรือตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2562-30 พ.ย. 2565 เพื่อสร้างโอกาสให้ธุรกิจรายเล็กเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น

          ขณะที่ นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ธนาคารได้เตรียมแหล่งเงินทุนสินเชื่อประชารัฐสร้างไทย ธนาคารประชาชน 5..5..5 วงเงินสินเชื่อ 2,500 ล้านบาท กู้ได้รายละไม่เกิน 50,000 บาท เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอย ผู้ประกอบการอาชีพอิสระ และผู้มีรายได้น้อย มีเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ โดยสามารถใช้บุคคล หรือบริษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันได้ โดยคิดอัตราดอก เบี้ย 0.50% ต่อเดือน ระยะเวลาผ่อนชำระ 5 ปี

          นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ยอดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารช่วง 11 เดือนปี นี้ สูงถึง 185,000 ล้านบาท ซึ่งเงินส่วนนี้ถือเป็นเงินที่ลงไปช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ และยังมั่นใจว่า ทั้งปีจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย 203,000 ล้านบาท โดยมีมาตรการของรัฐเข้ามาช่วยผลักดันตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้เติบโตได้