BAM รับหนี้ ธอส.6.9 พันล้านเตรียมเรียกคุยลูกหนี้ปรับโครงสร้าง (ธอส.)
Loading

BAM รับหนี้ ธอส.6.9 พันล้านเตรียมเรียกคุยลูกหนี้ปรับโครงสร้าง (ธอส.)

วันที่ : 20 ตุลาคม 2560
BAM รับหนี้ ธอส.6.9 พันล้านเตรียมเรียกคุยลูกหนี้ปรับโครงสร้าง (ธอส.)

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า การจำหน่ายสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ให้ BAM ในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการบริหารจัดการสินเชื่อเงินกู้ที่อยู่อาศัยที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้พร้อมกับพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์ตามที่กระทรวงการคลังได้อนุมัติ ให้ ธอส. จำหน่าย สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่คงค้างเกิน 3 ปีขึ้นไปวงเงินไม่เกิน 14,000 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2559 โดยหลังจากที่ธนาคารได้แจ้งให้ลูกหนี้ทราบว่าจะดำเนินการจำหน่าย NPL ตามขั้นตอน ทำให้มีลูกหนี้จำนวนหนึ่งกลับมาติดต่อขอเข้าสู่กระบวนการประนอมหนี้กับธนาคาร ส่งผลให้เหลือ NPL ที่จำหน่ายให้กับ BAM และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการธนาคารแล้วคิดเป็นมูลค่าเงินต้นคงค้าง 6,971 ล้านบาท และช่วยให้ NPL ของธนาคาร ณ วันที่ 30 ก.ย. 2560 ลดลงจาก 5.29% เหลือ 4.61% ของยอดสินเชื่อคงค้าง หรือลดลง 0.68%

ซึ่งการจำหน่าย NPL ในครั้งนี้ยังทำให้ธนาคารประหยัดเวลา บุคลากร ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่างๆ และมีความแข็งแกร่ง ทางการเงินมากขึ้น โดยสามารถนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายเป็นเงินสดสำรองในกองทุนของธนาคารเพื่อสนับสนุนการปล่อยสินเชื่อใหม่ให้ได้ตามเป้าหมายในปี 2560 ที่ 178,224 ล้านบาทต่อไป ซึ่ง ณ วันที่ 16 ต.ค. 2560 ธอส.สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 126,995 ล้านบาท และ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2560 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2559 ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมก่อนจำหน่าย NPL ในครั้งนี้ 980,646 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.67% สินทรัพย์รวม 1,050,666 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.43% เงินฝากรวม 862,767 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.50% กำไรสุทธิ 9,048 ล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ณ สิ้นเดือนส.ค. 2560 ยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งมากที่ 14.42% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 8.50% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย

ด้านนายกฤษณ์ เสสะเวช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM กล่าวว่า การลงนามในสัญญาจำหน่าย NPL ระหว่าง ธอส. กับ BAM ในครั้งนี้ มีภาระหนี้เงินต้น 6,971 ล้านบาท จำนวนลูกหนี้ 13,407 บัญชี โดยลูกหนี้มีทั้งที่อยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2548 BAM มีการลงนามซื้อ NPL จาก ธอส. รวม 4 ครั้ง คิดเป็นภาระหนี้เงินต้นรวมทั้งสิ้น 26,723 ล้านบาท จำนวนลูกหนี้ 50,586 ราย

ปัจจุบัน BAM มี NPL ที่อยู่ในความดูแลจำนวน 76,230 ราย คิดเป็นภาระหนี้เงินต้น 435,826 ล้านบาท ขณะที่ มี NPA จำนวน 15,824 รายการ คิดเป็นมูลค่า 43,605 ล้านบาท โดยวัตถุประสงค์หลักของการรับซื้อ NPL และ NPA จากสถาบันการเงินมาบริหารจัดการ มุ่งเน้นการเป็นเครื่องมือสำคัญของรัฐที่จะช่วยแก้ปัญหา และลดหนี้ด้อยคุณภาพในระบบสถาบันการเงิน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์
ข่าวบ้านมือสอง อื่นๆ