นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับ นายทาคามาสะ ฮิโรเสะ รองอธิบดีกรมเมืองฝ่ายวิศวกรรม กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐานการขนส่งและการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น (Ministry of Land, Infrastructure Transport and Tourism, MLIT) และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) ที่กระทรวงคมนาคม วันที่ 9 มิถุนายนว่า เป็นการหารือเพื่อสรุปรายละเอียดการจัดทำแผนการพัฒนาศูนย์คมนาคมพหลโยธิน และการพัฒนาพื้นที่บริเวณสถานีกลางบางซื่อรวมทั้งพื้นที่โดยรอบ ซึ่งทางญี่ปุ่นจะจัดทำรายงานฉบับสมบูรณ์เสนอกลับมาภายในกลางเดือนสิงหาคมนี้ ขณะเดียวกันยังเห็นชอบร่วมกันที่จะให้ญี่ปุ่นศึกษาแผนการพัฒนาที่ดินบริเวณสถานีมักกะสัน สถานีแม่น้ำ และพื้นที่ กม.11 ย่านพหลโยธิน และจะจัดทำสรุปรายงานภายในกลางเดือนมีนาคม 2561

นายพิชิตกล่าวว่า ญี่ปุ่นได้เข้ามาช่วยศึกษาแผนการพัฒนาพื้นที่ทั้งในส่วนของสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งมีเป้าหมายหลักใหญ่ในการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์ของประเทศและภูมิภาคอาเซียน ดังนั้นการพัฒนาพื้นที่โดยรอบจะต้องเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งด้วย ในขณะเดียวกันจะต้องสอดคล้องกับแผนการพัฒนาการใช้พื้นที่ดังกล่าวที่สำนักนโยบายแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ศึกษาและกำหนดกรอบแนวทางให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยข้อเสนอของญี่ปุ่นช่วยทำให้การกำหนดแผนปฏิบัติได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

นายพิชิตกล่าวว่า ญี่ปุ่นสนใจจะเข้ามาลงทุนพัฒนาพื้นที่ดินบริเวณสถานีมักกะสันมากกว่าพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ เพราะมองว่าพื้นที่มักกะสันสามารถเชื่อมโยงกับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และเป็นจุดเชื่อมต่อของ 3 สนามบิน คือ อู่ตะเภา-สุวรรณภูมิดอนเมือง โดยรูปแบบการลงทุนจะเป็นอสังหาริมทรัพย์

"ญี่ปุ่นแสดงความสนใจจะพัฒนาสถานีมักกะสันเพราะเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ทั้งแปลง ผมจึงบอกว่าให้ทำแผนเสนอมาได้ ดังนั้นหากเปิดประมูลพัฒนาที่ดินแปลงนี้ ญี่ปุ่นน่าจะเข้าร่วมอย่างแน่นอน" นายพิชิตกล่าว

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน