แนะพัฒนาอสังหาฯปี63ยึด ถนัด มากกว่าเทรนด์
วันที่ : 12 พฤศจิกายน 2562
พร็อพเพอร์ตี้ กูรู ชี้อสังหาฯปี63 ตลาดอสังหาฯไม่ฟื้น บิ๊กดีเวลลอปเปอร์เร่งปรับตัวเน้น พัฒนาโครงการตามความถนัด ใช้ ความคิดสร้างสรรค์ ระบุแนวโน้ม การซื้ออสังหาฯเปลี่ยนมาซื้อเพื่อลงทุนจากเดิมซื้อเพื่ออยู่อาศัย
พร็อพเพอร์ตี้ กูรู ชี้อสังหาฯปี63 ตลาดอสังหาฯไม่ฟื้น บิ๊กดีเวลลอปเปอร์เร่งปรับตัวเน้น พัฒนาโครงการตามความถนัด ใช้ ความคิดสร้างสรรค์ ระบุแนวโน้ม การซื้ออสังหาฯเปลี่ยนมาซื้อเพื่อลงทุนจากเดิมซื้อเพื่ออยู่อาศัย
นายเจสัน เกรกอรี กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ กูรู อินเตอร์ชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2563 ว่า ยังคงทรงตัวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นผู้ประกอบการอสังหาฯที่จะลงทุน ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลายในแต่ละพื้นที่และในแต่ละกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อที่แตกต่างกัน
"การทำตลาดอสังหาฯ ยุคนี้ ไดนามิกส์มาก ดีเวลลอปเปอร์ต้อง ปรับตัวในการพัฒนาโครงการตาม ความถนัด หรือความเชี่ยวชาญเฉพาะตัว แทนที่จะทำตลาดเทรนด์ตลาด ขณะที่ทำเลการทำธุรกิจยังไม่ได้จำกัดเฉพาะในกรุงเทพฯอีกต่อไป แต่ขยายไปในพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีศักยภาพ อาทิ พัทยา ภูเก็ต หรือในโซนอีอีซี(พื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) ซึ่งถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ที่มีศักยภาพ "
สำหรับตลาดอสังหาฯในไทยมีด้วยกัน 3 ตลาดหลักได้แก่ 1.ตลาด อสังหาฯ ที่มีระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นตลาดใหญ่2. ตลาดอสังหาฯ ในแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส เอ็มอาร์ที และ3.ตลาดอสังหาฯในโซนอีอีซี ที่ ดีเวลลอปเปอร์สามารถลงทุนดักกำลังซื้อ ในโซนนี้เริ่มตั้งแต่บางนา โดยไม่จำเป็นต้องไปลงทุนในซีบีดี(ใจกลางธุรกิจ) ที่มีต้นทุนที่ดินราคาแพง
ขณะเดียวกัน ดีเวลลอปเปอร์ รายใหญ่ยังหันลงทุนพัฒนาอสังหาฯ ประเภทมิกซ์ยูส รวมถึงการนำเทคโนโลยี ด้านสมาร์ท โฮม มาเสริมธุรกิจให้สอดคล้องกับเทรนด์อสังหาฯในปัจจุบัน มากยิ่งขึ้น
"การเกิดขึ้นของมิกซ์ยูสเกิดจากปัญหาโอเวอร์ซัพพลายจากอสังหาฯประเภทคอนโด เปลี่ยนมาเป็นมิกซ์ยูสแทน ในต่างประเทศอย่าง อินโดนีเซียมีการพัฒนาเป็นทาวน์ชิพ ที่รวมเอาโรงเรียน โรงพยาบาล เข้าไปอยู่ในพื้นที่ ซึ่งแนวโน้มโซนอีอีซี จะเป็นเช่นเดียวกัน"
นายเจสัน ยังกล่าวว่า แนวโน้มพฤติกรรมของลูกค้าคนไทยในการซื้อ อสังหาฯเปลี่ยนไปจากเดิมที่ซื้อเพื่อ อยู่อาศัยหรือเก็บเป็นทรัพย์สิน เปลี่ยนเป็นการซื้อเพื่อลงทุน ปล่อยเช่าสร้าง รายได้ ขณะที่ผู้ประกอบการเน้นมิกซ์ยูส เพื่อตอบโจทย์ปัญหาสต็อกล้นตลาด และดึงดูดลูกค้าที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ เหมือนในประเทศอินโดนีเซีย
นายเจสัน เกรกอรี กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ กูรู อินเตอร์ชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2563 ว่า ยังคงทรงตัวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นผู้ประกอบการอสังหาฯที่จะลงทุน ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลายในแต่ละพื้นที่และในแต่ละกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อที่แตกต่างกัน
"การทำตลาดอสังหาฯ ยุคนี้ ไดนามิกส์มาก ดีเวลลอปเปอร์ต้อง ปรับตัวในการพัฒนาโครงการตาม ความถนัด หรือความเชี่ยวชาญเฉพาะตัว แทนที่จะทำตลาดเทรนด์ตลาด ขณะที่ทำเลการทำธุรกิจยังไม่ได้จำกัดเฉพาะในกรุงเทพฯอีกต่อไป แต่ขยายไปในพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีศักยภาพ อาทิ พัทยา ภูเก็ต หรือในโซนอีอีซี(พื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) ซึ่งถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ที่มีศักยภาพ "
สำหรับตลาดอสังหาฯในไทยมีด้วยกัน 3 ตลาดหลักได้แก่ 1.ตลาด อสังหาฯ ที่มีระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นตลาดใหญ่2. ตลาดอสังหาฯ ในแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส เอ็มอาร์ที และ3.ตลาดอสังหาฯในโซนอีอีซี ที่ ดีเวลลอปเปอร์สามารถลงทุนดักกำลังซื้อ ในโซนนี้เริ่มตั้งแต่บางนา โดยไม่จำเป็นต้องไปลงทุนในซีบีดี(ใจกลางธุรกิจ) ที่มีต้นทุนที่ดินราคาแพง
ขณะเดียวกัน ดีเวลลอปเปอร์ รายใหญ่ยังหันลงทุนพัฒนาอสังหาฯ ประเภทมิกซ์ยูส รวมถึงการนำเทคโนโลยี ด้านสมาร์ท โฮม มาเสริมธุรกิจให้สอดคล้องกับเทรนด์อสังหาฯในปัจจุบัน มากยิ่งขึ้น
"การเกิดขึ้นของมิกซ์ยูสเกิดจากปัญหาโอเวอร์ซัพพลายจากอสังหาฯประเภทคอนโด เปลี่ยนมาเป็นมิกซ์ยูสแทน ในต่างประเทศอย่าง อินโดนีเซียมีการพัฒนาเป็นทาวน์ชิพ ที่รวมเอาโรงเรียน โรงพยาบาล เข้าไปอยู่ในพื้นที่ ซึ่งแนวโน้มโซนอีอีซี จะเป็นเช่นเดียวกัน"
นายเจสัน ยังกล่าวว่า แนวโน้มพฤติกรรมของลูกค้าคนไทยในการซื้อ อสังหาฯเปลี่ยนไปจากเดิมที่ซื้อเพื่อ อยู่อาศัยหรือเก็บเป็นทรัพย์สิน เปลี่ยนเป็นการซื้อเพื่อลงทุน ปล่อยเช่าสร้าง รายได้ ขณะที่ผู้ประกอบการเน้นมิกซ์ยูส เพื่อตอบโจทย์ปัญหาสต็อกล้นตลาด และดึงดูดลูกค้าที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ เหมือนในประเทศอินโดนีเซีย
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ