SENAผนึกฮันคิวผุดโครงการใหม่ เสนา-อาศุ พระราม 9 มูลค่า 2.1 พันล้านบาท
วันที่ : 13 พฤศจิกายน 2562
SENA ผนึก ฮันคิว เปิดแบรนด์ใหม่ “SENA-AZU” ภายใต้โครงการคอนโดมิเนียม “เสนา-อาศุ พระราม 9” มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท ย้ำยอดขายปี 62 ตามนัด 10,000 ล้านบาท
SENA ผนึก ฮันคิว เปิดแบรนด์ใหม่ “SENA-AZU” ภายใต้โครงการคอนโดมิเนียม “เสนา-อาศุ พระราม 9” มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท ย้ำยอดขายปี 62 ตามนัด 10,000 ล้านบาท
นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า บริษัทยังได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ “SENA-AZU” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Stay healthy today &tomarrow” ได้แก่ โครงการ เสนา-อาศุ พระราม 9 คอนโดมิเนียมแนวคิดใหม่ เพื่อชีวิตที่ดีในวันนี้และวันพรุ่งนี้ สอดรับความต้องการผู้บริโภคในปัจจุบัน ถือเป็นโครงการที่ 9 ในการร่วมพัฒนาโครงการกับฮันคิว พร้อมทั้งได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลกรุงเทพ และ FIT Thailand เพื่อยกระดับชีวิตผู้อยู่อาศัย เช่น สิทธิพิเศษบัตรสมาชิกชีววัฒนะแวลูโกลด์ และ Work Shop จากเทรนเนอร์พิเศษ
สำหรับโครงการ เสนา-อาศุ พระราม 9 เป็นคอนโดมิเนียม 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร บนเนื้อที่ 8 ไร่ ขนาด 574 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 92,000 บาทต่อตารางเมตร มูลค่าโครงการรวม 2,100 ล้านบาท กำหนดก่อสร้างในปี 2563 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2564
ทั้งนี้ จากมาตรการต่าง ๆ ที่ภาครัฐออกมาในปี 2562 ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มีการกระตุ้นยอดขายอย่างดุเดือด และมองว่าได้เกิดสงครามด้านราคาขึ้นในปัจจุบัน โดยในส่วนของมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ลดค่าโอน-จดจำนอง สำหรับโครงการราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย. 2562-24 ธ.ค. 2563 มองว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่การแข่งขันก็สูงเช่นกัน ซึ่งบริษัทมีโครงการที่เป็นสินค้าคงเหลือ (สต๊อก) ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท รวมกว่า 2,000 ยูนิต สามารถรองรับมาตรการดังกล่าวได้ตลอดระยะเวลาของการกระตุ้นของภาครัฐ
ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้นำสินค้าคงเหลือของ SENA ตอบสนอง “โครงการบ้านในฝัน รับปีใหม่” โดยนำโครงการคุณภาพจำนวน 13 โครงการ จำนวน 1,000 ยูนิต มูลค่า 1,800 ล้านบาท เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.-31 ธ.ค. 2562 เบื้องต้นมีความคาดหวังว่าจะได้กระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค และมียอดขายเฉลี่ย 30-40% ของจำนวนยูนิตที่เข้าร่วม
ดังนั้น บริษัทยังมั่นใจในปี 2562 จะมียอดขาย (Presale) อยู่ที่ระดับ 10,000 ล้านบาท และมีรายได้รวม 6,000 ล้านบาท ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ตามการเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 12,500 ล้านบาท ซึ่งสามารถทยอยรับรู้รายได้ภายในปีนี้ประมาณ 4,580 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ภายในปีถัดไป
นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า บริษัทยังได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ “SENA-AZU” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Stay healthy today &tomarrow” ได้แก่ โครงการ เสนา-อาศุ พระราม 9 คอนโดมิเนียมแนวคิดใหม่ เพื่อชีวิตที่ดีในวันนี้และวันพรุ่งนี้ สอดรับความต้องการผู้บริโภคในปัจจุบัน ถือเป็นโครงการที่ 9 ในการร่วมพัฒนาโครงการกับฮันคิว พร้อมทั้งได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลกรุงเทพ และ FIT Thailand เพื่อยกระดับชีวิตผู้อยู่อาศัย เช่น สิทธิพิเศษบัตรสมาชิกชีววัฒนะแวลูโกลด์ และ Work Shop จากเทรนเนอร์พิเศษ
สำหรับโครงการ เสนา-อาศุ พระราม 9 เป็นคอนโดมิเนียม 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร บนเนื้อที่ 8 ไร่ ขนาด 574 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 92,000 บาทต่อตารางเมตร มูลค่าโครงการรวม 2,100 ล้านบาท กำหนดก่อสร้างในปี 2563 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2564
ทั้งนี้ จากมาตรการต่าง ๆ ที่ภาครัฐออกมาในปี 2562 ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มีการกระตุ้นยอดขายอย่างดุเดือด และมองว่าได้เกิดสงครามด้านราคาขึ้นในปัจจุบัน โดยในส่วนของมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ลดค่าโอน-จดจำนอง สำหรับโครงการราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย. 2562-24 ธ.ค. 2563 มองว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่การแข่งขันก็สูงเช่นกัน ซึ่งบริษัทมีโครงการที่เป็นสินค้าคงเหลือ (สต๊อก) ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท รวมกว่า 2,000 ยูนิต สามารถรองรับมาตรการดังกล่าวได้ตลอดระยะเวลาของการกระตุ้นของภาครัฐ
ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้นำสินค้าคงเหลือของ SENA ตอบสนอง “โครงการบ้านในฝัน รับปีใหม่” โดยนำโครงการคุณภาพจำนวน 13 โครงการ จำนวน 1,000 ยูนิต มูลค่า 1,800 ล้านบาท เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.-31 ธ.ค. 2562 เบื้องต้นมีความคาดหวังว่าจะได้กระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค และมียอดขายเฉลี่ย 30-40% ของจำนวนยูนิตที่เข้าร่วม
ดังนั้น บริษัทยังมั่นใจในปี 2562 จะมียอดขาย (Presale) อยู่ที่ระดับ 10,000 ล้านบาท และมีรายได้รวม 6,000 ล้านบาท ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ตามการเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 12,500 ล้านบาท ซึ่งสามารถทยอยรับรู้รายได้ภายในปีนี้ประมาณ 4,580 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ภายในปีถัดไป
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ