"ประทีป  ตั้งมติธรรม" ออกโรงแนะนักพัฒนาอสังหาฯ ปีนี้ อย่าลงทุนเกินตัว ระมัดระวัง ทั้งการ เปิดตัวโครงการใหม่   ซื้อที่ดิน ต้องศึกษา ตลาดให้แม่นยำ หลังอสังหาฯเผชิญท้าทายซัพพลายล้น กำลังซื้อชะลอ
        นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจในปี 2563 ว่า หลังจากผ่านพ้นเศรษฐกิจช่วงขาลงในปีที่ผ่านมา เริ่มมีปัจจัยบวกเข้ามา กระตุ้นเศรษฐกิจ  ประกอบด้วย ปัจจัยภายในประเทศ ได้แก่ 1.งบประมาณจาก ภาครัฐเริ่มเบิกจ่ายและกระจายตัวไปยังภาคประชาชนฐานราก และภาคก่อสร้าง รวมไปถึงภาควัสดุก่อสร้างทำให้เกิดการหมุนเวียนกระตุ้นเศรษฐกิจกระจายตัวมากขึ้น2.อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ 3.ค่าเงินบาทที่คาดว่าถึงจุดที่อยู่ในระดับที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ธนาคารแห่ง ประเทศไทย(ธปท.) และหน่วยงานอื่นๆ ต้องเข้ามาควบคุมไม่ให้แข็งค่าเกินกว่า 30 บาทต่อ 1 ดอลลาร์
        ด้านปัจจัยภายนอก สงครามการค้า เริ่มมีแนวโน้มจะผ่อนเบาลง เมื่อสหรัฐและจีน ลงนามทำสัญญาทำความตกลงทาง การค้าในวันที่ 15 ม.ค.2563  โดยปัจจัยบวก ทั้งภายในและภายนอกประเทศ ส่งผลมายังภาคธุรกิจอสังหาฯ ที่ส่วนตัวคาดว่า สถานการณ์จะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
        อย่างไรก็ตาม ภาคอสังหาฯ ยังเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงที่ท้าทาย จากซัพพลายใหม่ในตลาดเกิดขึ้นน้อย ส่วนใหญ่จะเป็น โครงการที่มีการวางแผนเปิดตัวอยู่แล้ว รวมไปถึงสภาพตลาดในปัจจุบัน มีทั้งกลุ่มคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยและ กลุ่มที่ระมัดระวังการใช้จ่าย จึงทำให้ นักพัฒนาอสังหาฯต้องลดราคาเพื่อ ระบายสต็อก และระมัดระวังในการซื้อ ที่ดิน และการลงทุนเปิดตัวในทำเลใหม่ๆ ที่ไม่มีความรู้ ยังถือเป็นปัจจัยเสี่ยง
        "ทุกคนในตลาดอสังหาฯ พยายามขายโครงการเก่า ก่อนโครงการใหม่ ซัพพลายใหม่ที่เพิ่มคอนโดจะออกมา ค่อนข้างน้อย นอกจากโครงการที่เตรียม ไว้ ที่ดินดิบใหม่ๆ จะไม่มีขึ้นโครงการ รวมถึงโครงการในต่างจังหวัดที่ผู้พัฒนาฯ บางคนหนีจากการแข่งขันกรุงเทพฯ ไปต่างจังหวัด หากไปซื้อที่ดินใหม่ที่ราคาแพงกว่าคู่แข่ง และไม่ได้ศึกษาพื้นที่อย่างดี จะลำบาก เพิ่มความเสี่ยงให้กับตัวเอง ดังนั้นจึงต้องลงทุนด้วยความระมัดระวังไม่ทำอะไรเกินตัว"
        นายประทีปยังกล่าวถึงการปรับตัว ว่า กลยุทธ์ของศุภาลัยในการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงนี้ ต้องบริหารด้วยความระมัดระวังทั้งกรุงเทพฯและ ต่างจังหวัด ต้องรู้จริงเกี่ยวกับทำเลและความต้องการ เพื่อความแม่นยำในการทำสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาด รวมถึงความได้เปรียบตลาด โดยเฉพาะการเพิ่มสินค้าใหม่ และทำเลใหม่ๆ ทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึง ต่างจังหวัดที่ไปปักธงอยู่แล้ว   "ปีนี้ทำโครงการด้วยความระมัด ระวังขึ้น ทำสินค้าให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย มากขึ้น ตามความต้องการของลูกค้า ราคา ไม่แพงคุ้มค่า น่าอยู่ ปลอดภัย และบริการ ต้องดี ตามเป้าหมายเปิดตัวโครงการเราไม่ได้ลดลงในปีนี้ เพียงแต่ในช่วงเศรษฐกิจไม่ดียอดขายในแต่ละโครงการก็น้อยลง โดยคนซื้อคอนโด นักเก็งกำไรลดลง แต่คนซื้ออยู่จริงไม่เปลี่ยน ส่วนบ้านจัดสรรก็ยังไม่ลด จึงเน้นเพิ่มสินค้าในหลากหลายทำเล และทำสินค้าใหม่ๆ"