สต็อกคงค้าง 2แสนยูนิต ฉุดคอนโดลดผุดโปรเจค
Loading

สต็อกคงค้าง 2แสนยูนิต ฉุดคอนโดลดผุดโปรเจค

วันที่ : 15 กุมภาพันธ์ 2563
แอลพีเอ็นคาดปี 63 แนวโน้มเปิดตัวคอนโดใหม่ลด 23% เหตุสต็อกเหลือขายสิ้นปี 62 มีกว่า 2 แสนยูนิต ใช้เวลาระบายสต็อก 2ปี ขณะที่อยู่อาศัยแนวราบมีแนวโน้มเปิดตัวเพิ่มขึ้น 9% ทำให้สัดส่วนการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งปีลดลง 10%
          แอลพีเอ็นคาดปี 63  แนวโน้มเปิดตัวคอนโดใหม่ลด 23% เหตุสต็อกเหลือขายสิ้นปี 62 มีกว่า 2 แสนยูนิต ใช้เวลาระบายสต็อก 2ปี ขณะที่อยู่อาศัยแนวราบมีแนวโน้มเปิดตัวเพิ่มขึ้น 9% ทำให้สัดส่วนการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งปีลดลง 10%

          นายประพันธ์ศักดิ์  รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพีนี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (LPN Wisdom) บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ กรุ๊ป กล่าวว่า ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มชะลอแผนการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมในปี 2563 เนื่องจากตลาดมีสินค้าคงเหลือที่รอขาย ณ สิ้นสุดปี 2562 อยู่ที่ 214,000 หน่วย เพิ่มขึ้นในสัดส่วน 10 % จากจำนวนสินค้ารอการขาย 195,000 หน่วยในปี 2561 ซึ่งต้องใช้เวลาในการขายอย่างน้อย 24 เดือน ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ ชะลอแผนเปิดตัวโครงการคอนโดในปี 2563 เมื่อเทียบกับปี 2562

          "เราคาดว่าปี 2563 จะเปิดตัวโครงการคอนโดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 50,000-55,000 หน่วย หรือ ประมาณ 110-120 โครงการ ลดลง 23% โดยเน้นตลาดที่ระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อยูนิต และจะมีสัดส่วนการขายประมาณ 30% จากจำนวนที่เปิดขายใหม่ทั้งหมดหรือประมาณ 15,000 หน่วย ซึ่งเป็นอัตราขายที่ ลดลงต่อเนื่องจากปี 2562 ที่มีอัตราการขายเฉลี่ยอยู่ที่ 33% เป็นผลจากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินจากนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการกำกับดูแลสัดส่วนหนี้สินต่อ รายได้ (Debt Service Ratio)และ กำลังซื้อทั้งจากในและต่างประเทศที่ลดลง ผลจากภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของประเทศชะลอตัว" นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว

          อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการ อสังหาฯ มีแผนที่จะเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยในแนวราบทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และบ้านแฝด ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในปี 2563 ประมาณ 50,000-55,000 หน่วย หรือประมาณ 280-300 เฟส/โครงการ ที่ระดับราคาประมาณ 3-5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นในสัดส่วน 9% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 259 เฟส/โครงการ คิดเป็น จำนวน 45,959 หน่วย โดยประมาณว่าจะมีปริมาณการขายในปี 2563 สำหรับโครงการที่เปิดตัวใหม่ประมาณ24% ของจำนวนการเปิดขายใหม่ทั้งหมด

          "ผู้ประกอบการหันมาเปิดตัว โครงการในแนวราบเพิ่มขึ้น เพื่อตอบรับกับความต้องการซื้อในตลาด ที่เพิ่มขึ้น และเป็นการบริหารจัดการ ต้นทุนในการดำเนินงานเนื่องจากโครงการแนวราบจะมีต้นทุนในการก่อสร้างตามกำลังซื้อในตลาดไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างทั้งโครงการในทันที ทำให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการต้นทุนให้สอดคล้องกับกำลังซื้อในตลาด" นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว

          จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้จำนวนการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งหมดในปี 2563 จะอยู่ที่ 100,000-110,000 หน่วย หรือ ลดลง ประมาณ10% หรือมูลค่าประมาณ 420,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ ปี 2562 ที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 110,500 หน่วย หรือมูลค่า 440,000 ล้านบาท หรือลดลง 8% เมื่อเทียบกับปี 2561

          ขณะที่ประมาณการการโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2563 จะใกล้เคียงกับปี 2562 ที่มียอดโอนกรรมสิทธิ์ 196,000 หน่วย ซึ่งปรับตัวลดลง 6% เมื่อเทียบกับปี 2561

          ประมาณการการโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2563 จะใกล้เคียงกับปี 2562 ที่มียอดโอน 196,000 หน่วย ปรับตัวลดลง 6% เมื่อเทียบกับปี 2561
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ