27 กุมภาพันธ์ 2563 "พี่แจ้- ไพโรจน์ วัฒนวโรดม" กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมทไทม์ พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแทนท์ จำกัด จับไมค์เป็นวิทยากรในโอกาสต้อนรับคณะเยี่ยมชมไซต์โครงการเปิดตัวใหม่ "ลลิสา คอนโด แพรกษา 5" โดยมีหัวขบวน คือ "นราทร ธานินพิทักษ์" นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดนครราชสีมา และสมาชิกผู้ประกอบการชาวโคราช สรุปรายละเอียดเทรนด์การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ดังนี้

          เปิดเวทีด้วยหลักคิดของนักพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อก้าวให้ข้ามวิกฤตครั้งนี้ ในฐานะที่ผ่านวิกฤตเศรษฐกิจมาหลายรอบ "พี่แจ้-ไพโรจน์" ยืนยันว่ามองเห็นโอกาสในการลงทุน โดยมีมุมมอง 3 ข้อด้วยกัน

          1.ไวรัสโควิด-19 เชื่อว่าด้วยความพยายามและความสามารถของทุกรัฐบาลในโลก ภายในไตรมาส 2/63 ก็ต้องจบ 2.มีปัจจัยบวกจากในประเทศซึ่งรัฐบาลไทยเริ่มใช้งบประมาณแผ่นดิน ได้อย่างเต็มที่ตั้งแต่ไตรมาส 2/63 เป็นต้นไป

          และ 3.แนวโน้มครึ่งปีหลัง 2563 ทุกประเทศเริ่มปรับตัวรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจและวิกฤตโควิด-19 ได้อยู่ตัว นั่นหมายถึงได้เวลาของการลงทุนใหม่ ๆ

          คำถามคือนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ต้องทำอย่างไร

          ในที่นี้ มีคาถาในการพัฒนาโครงการ 5 ข้อ เพื่อคว้าชัยชนะในเกมการลงทุน ประกอบด้วย

         1.บริหารงานโดยคำนึงถึงสภาพคล่องเป็นด้านหลัก ตั้งแต่การหารายได้/รายรับ ให้พร้อมและเพียงพอกับค่าใช้จ่าย รวมทั้งการบริหารจัดการด้านการเงินและการจ่ายดอกเบี้ย bank

          2.สำคัญที่สุด ณ นาทีนี้ คือ ต้องไม่ลด พนักงาน ขณะเดียวกัน บริษัทต้องออกมาตรการส่งเสริมสร้างขวัญและให้กำลังใจ ควบคู่กับเป็นโอกาสในการฝึกทักษะแขนงต่าง ๆ ตามฟังก์ชั่นงาน ที่รับผิดชอบ

          3.หนึ่งในความเชื่อมั่นของผู้บริโภค คือ บริษัทต้องสื่อสารอยู่ตลอดเวลานั่นหมายความว่ายังคงทำกิจกรรมการตลาดให้มีความต่อเนื่อง คีย์เมสเสจให้เน้นไปที่การสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่มาซื้อบ้านว่า ช่วงนี้คุ้มค่า รวมทั้งบริหารจัดการความพึงพอใจลูกค้าในรูปแบบ all services

          4."รอจีนกลับมา" อย่างที่ทราบกันดีว่าในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ตลาดคอนโดมิเนียมพึ่งยอดขายลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะลูกค้าจีนเป็นหลัก

          ทั้งนี้ โควิด-19 อาจเป็นวิกฤตโรคระบาดที่เขย่าความเชื่อมั่นคนทั้งโลก แต่ในวิกฤตมีโอกาสแฝงเร้นเพราะเป็น การเปิดมุมมองคนจีนที่อาจมีความต้องการหาบ้านพักเป็นหลังที่ 2 นอกประเทศจีน

          "ไทยอาจเป็นบ้านหลังที่ 2 ของคนจีน หรือแม้แต่ลูกค้าต่างชาติที่อาจมีดีมานด์มากกว่าที่เคย เพราะหมอไทยเก่ง สภาพอากาศเมืองร้อนที่ต่อต้านโรคระบาดได้ดีอยู่แล้ว เหมือนกับโครงการต่างจังหวัดที่ผมเคยบุกเบิกมาก่อนในยุคน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 ซึ่งมีลูกค้าคนกรุงเทพฯมาซื้อเป็นหลังที่ 2"

          นอกจากรอจีนกลับมา ยังต้อง "รอไทยกลับมา" ด้วย เพราะลูกค้าไทย กำลังซื้อชะงักไปชั่วครู่ แต่ถ้าบริษัทเตรียมความพร้อมแผนงาน-แผนคน เมื่อลูกค้ามีความมั่นใจในการซื้อบ้าน และได้รับบริการที่ดี โปรดักต์คุณภาพสูง... เดี๋ยวเขาก็กลับมาซื้อแน่นอน

          5.วางเป้าหมายการตลาดและกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจน แบ่งโครงการเป็น phasing กำหนดแผนเดินหน้าและถอยหลังได้ ต้องมีแผน A (แผนหลัก) แผน B (แผนสำรอง) ยกตัวอย่าง สมัยมหาอุทกภัย หรือมีม็อบชัตดาวน์ปิดกรุงเทพฯ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สามารถก้าวข้ามได้ทุกครั้ง

          "ผมเชื่อมั่น เดินต่อไปได้ ยังไม่ได้เกิด สงครามล้างโลก แต่ก็ต้องป้องกันตนเองแล้วก้าวเดินต่อไป เดินช้าหน่อย แต่ก็ถึงเป้าหมาย ส่งพลังบวกเพื่อเรา จะได้สู้กับภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้"