CMC กำไรติดเทอร์โบ 2,439% อสังหาขายดี-รอโอน 2 พันล้าน
Loading

CMC กำไรติดเทอร์โบ 2,439% อสังหาขายดี-รอโอน 2 พันล้าน

วันที่ : 17 พฤษภาคม 2564
เจ้าพระยามหานคร ลุยเปิดโครงการใหม่ครึ่งปีหลัง 4 โครงการ มูลค่ารวม 6 พันล้านบาท
      
          CMC พลิกกำไรไตรมาสแรก 2,439.53% แตะ 40.24 ล้านบาท ชี้ยอดขายอสังหาพุ่งขึ้น ฟากบิ๊กบอส "วิเชียร แพทยานันท์" ส่งซิกไตรมาส 2/64 โตต่อ ตุน Backlog รอโอน 2.04 พันล้านบาท จ่อบุ๊กเข้าพอร์ตปีนี้กว่า 700 ล้านบาท ลุยเปิดโครงการใหม่ครึ่งปีหลัง 4 โครงการ มูลค่ารวม 6 พันล้านบาท ล่าสุดลงทุน โรงพยาบาล ป.แพทย์ สร้างรายได้ประจำ

          นพ.วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.เจ้าพระยามหานคร จำกัด หรือ CMC เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 40.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.96 ล้านบาท หรือ 2,439.53% เมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ขาดทุน 1.72 ล้านบาท

          ยอดขายอสังหาพุ่ง

          ทั้งนี้มีปัจจัยจากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จและโอนกรรมสิทธิ์ในได้ในช่วงปลายปี 2563 จนถึงปัจจุบัน 1 โครงการ ได้แก่ โครงการแบงค์คอก ฮอไรซอน ไลท์ @สถานีเพชรเกษม 48 และมีรายได้รวมอยู่ที่ 376.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.86 ล้านบาท หรือ 43.34% เมื่อเทียบ กับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 262.74 ล้านบาท

          ขณะที่แนวโน้มธุรกิจและผลประกอบการไตรมาส 2/2564 คาดจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2564 ซึ่งปัจจุบันบริษัทมียอดรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) ที่ 2.04 พันล้านบาท โดยจะ ทยอยรับรู้เข้ามาช่วงที่เหลือปีนี้ราว 700 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทมีห้องว่างรอการ ขาย (Inventory) รวมมูลค่าประมาณ 3.13 พันล้านบาท จากทั้งหมด 6 โครงการที่เปิดขายและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งมีกำหนดจะแล้วเสร็จในปี 2564-2566

          โดยมีโครงการที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2564 ถึง 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ เดอะ คิวเว่ ติวานนท์, โครงการ คาซ่า ดีว่า สาทร-วงแหวน เฟส 2 และโครงการ คาซ่า ดีว่า สาธร-วงแหวน เฟส 3

          ลุยเปิดโครงการใหม่

          นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังปี 2564 จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวมราว 6 พันล้านบาท บริษัทมีพื้นที่สำหรับพัฒนาโครงการแล้ว ซึ่งเป็นโครงการใกล้แนวรถไฟฟ้า เช่น บางนา สุขสวัสดิ์ เป็นต้น สำหรับโครงการเปิดใหม่เป็นโครงการแนวสูงเป็นหลัก อีกทั้งจะพิจารณาเปิดโครงการแนวราบ เพื่อปรับพอร์ตธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่โครงการแนวราบจะไม่ใช่โครงการใหญ่ เมื่อเทียบกับโครงการแนวสูง ทั้งนี้คาดสัดส่วนรายได้แนวสูงจะอยู่ที่ 95% ส่วนแนวราบจะอยู่ที่ 5%

          บริษัทคาดยอดปฏิเสธ สินเชื่อปี 2564 จะไม่เพิ่มขึ้น อย่างมีนัยสำคัญ เบื้องต้นคาดว่าจะไม่เกิน 10% เนื่องจากก่อนลูกค้าจะยื่นเอกสารกับสถาบันทางการเงิน ลูกค้าได้สกรีนตัวเองก่อนยื่นเอกสารแล้ว ทำให้บริษัทเชื่อมั่นว่าตัวเลขยอดปฏิเสธสินเชื่อจะไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง

          นพ.วิเชียร กล่าวต่อว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2564 เพิ่มขึ้นแตะ 3 พันล้านบาท จากปีก่อนที่ 1.2 พันล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทจะขยายฐานธุรกิจไปในธุรกิจที่มีรายได้ประจำอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทได้ลงทุนในกิจการโรงพยาบาล ป.แพทย์ จังหวัดนครราชสีมา และจะรับรู้ผลการลงทุนเข้ามาในปี 2564 และปัจจุบัน อยู่ระหว่างพิจารณาการลงทุนโครงการ อื่นๆ เพิ่มเติม เช่น การทำเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ เป็นต้น คาดจะเห็นความชัดเจนในปีนี้

          ส่วนสัดส่วนรายได้ คาดในปี 2564 รายได้หลักยังมาจากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ 80% และสัดส่วนจากธุรกิจ รายได้ประจำ 20%
          
      
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ