แคปปิตอล วัน จับมือ ปรีดาฯ พัฒนามิกซ์ยูสมูลค่า3,500ล. ชูคอนเซ็ปต์โอเอซิสแห่งใหม่ใจกลางเมือง
วันที่ : 18 กันยายน 2566
แคปปิตอล วัน เผยว่า รูปแบบในการพัฒนาโครงการ จะมีส่วนของโครงการคอนโดมิเนียม มีพื้นที่อาคารสำนักงาน และพื้นที่ค้าปลีกให้เช่า (รีเทล) มูลค่าโครงการรวมสูงถึง 3,500 ล้านบาท โดยมีการออกแบบเป็นอาคารสูง 48 ชั้น (รวมดาดฟ้า) จำนวน 524 ยูนิต
ผู้นำตลาด คอนโดฯ ย่านดอนเมือง "ปรีดา เรียลเอสเตท" ประกาศรุกตลาดคอนโดมิเนียม ในเมือง จับมือ "แคปปิตอล วัน เรียลเอสเตทฯ" ร่วมบริหารการขายโครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่ย่านถนนประดิพัทธ์ คอนโด อาคารสำนักงาน และพื้นที่รีเทล รวมมูลค่าสูงถึง 3,500 ล้านบาท จัดเต็มพื้นที่ส่วนกลาง 3,200 ตร.ม. ยกให้เป็น 'OASIS' แห่งใหม่ใจกลางเมือง พร้อมแวดล้อมไปด้วยสถานที่ราชการสำคัญ ใกล้รัฐสภา สถานศึกษาชั้นนำ แหล่งชอปปิง เผยราคาขายห้องชุดเริ่ม 2.99 ล้านบาท เฉลี่ย 1.3 แสนบาทต่อ ตร.ม. เริ่ม Pre-Sale พ.ย.นี้ วางเป้าขายไม่ต่ำกว่า 40% ช่วงพรีเซล
นายวิทย์ กุลธนวิภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท แคปปิตอล วัน เรียลเอสเตท จำกัด (Capital One Real Estate) และ เคลเลอร์ วิลเลี่ยม ไทยแลนด์ (Keller Williams Thailand หรือ KW) เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2566 ว่า บริษัทฯมีแผนที่จะขยายธุรกิจในตลาดที่อยู่อาศัยมากขึ้น ซึ่งตลาดคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรียังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง และด้วยประสบการณ์ที่ทำธุรกิจในด้านบริการตลาดคอนโดมิเนียมมานาน มีผลงานสร้างยอดขายมูลค่ารวม ไม่น้อยกว่า 30,000-40,000 ล้านบาท
ล่าสุด บริษัท ปรีดา เรียลเอสเตท จำกัด ผู้พัฒนาธุรกิจโครงการคอนโดมิเนียม แบรนด์กรีเน่ คอนโด (GRENE CONDO) ผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมย่านดอนเมือง และมีบริษัทปรีดา โฮลดิ้ง จำกัด ที่อยู่ในอุตสาหกรรมก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพดี ในราคาที่เหมาะสมมามากกว่า 60 ปี ได้ไว้วางใจให้บริษัท แคปปิตอล วัน เข้ามาร่วมบริหารการขายโครงการมิกซ์ยูส (Mixed-Use) ของทางบริษัทปรีดา เรียลเอสเตท จำกัด เป็นการพัฒนา โครงการแฟลกชิป (Flagship Projects) แบรนด์ใหม่ บนโลเกชันดีย่านถนนประดิพัทธ์เป็นครั้งแรก
จุดขายโครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่ พัฒนาบนที่ดินมากถึง 3 ไร่ 3 งา 59 ตารางวา มี 1 อาคาร โดดเด่นด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่ให้มากถึง 3,200 ตารางเมตร (ตร.ม.) เปรียบเสมือนโอเอซิส (OASIS) แห่งใหม่ใจกลางเมือง แต่ละพื้นที่ภายในอาคาร ถูกจัดสรร ดีไซน์ให้มีพื้นที่รองรับการพักผ่อนของผู้อยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ
รูปแบบในการพัฒนาโครงการ จะมีส่วนของโครงการคอนโดมิเนียม มีพื้นที่อาคารสำนักงาน และพื้นที่ค้าปลีกให้เช่า (รีเทล) มูลค่าโครงการรวมสูงถึง 3,500 ล้านบาท โดยมีการออกแบบเป็นอาคารสูง 48 ชั้น (รวมดาดฟ้า) จำนวน 524 ยูนิต มีแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ 34.88 ตร.ม. จำนวน 329 ยูนิต, แบบ 1 ห้องนอน พลัส พื้นที่ 48 ตร.ม.จำนวน 31 ยูนิต ,แบบ 2 ห้องนอน จำนวน 54 ยูนิต จำนวน 33 ยูนิต ,แบบ Loft (1ห้องนอน) เริ่ม 38.47-47.39 ตร.ม.จำนวน 120 ยูนิต และ Loft (2นอน) พื้นที่ 68.75-80.15 ตร.ม. จำนวน 11 ยูนิต มีที่จอดรถทั้งหมด 335 คัน โดยตัวโครงการได้ผ่านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA Approved) และอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการ คาดจะก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผนในปี 2568
นอกจากนี้ ทางโครงการยังมีส่วนของอาคารสำนักงาน พื้นที่ 3,000 ตร.ม.รองรับธุรกิจเอสเอ็มอีที่มาเช่าพื้นที่ รวมถึงให้บริการแก่ผู้อยู่อาศัยที่เข้ามาใช้พื้นที่ในการทำงาน ยังตอบโจทย์เรื่องไลฟ์สไตล์ของการอยู่อาศัย กับพื้นที่ค้าปลีก (รีเทล) 500 ตร.ม. ที่จะมีร้านอาหารเข้ามาเช่าและเปิดให้บริการ
ในส่วนของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จะมีทั้งลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการมองหาที่พักอยู่ใกล้สถานที่ทำงาน เนื่องจากตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้สถานการศึกษา เช่น โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ใกล้สถานที่ราชการ เช่น รัฐสภาแห่งใหม่ กระทรวงการคลัง ใกล้สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สามารถเดินทางไปยังสถานีกลางบางซื่อ และห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวประมาณ 1 กิโลเมตร (กม.) ใกล้ทางด่วนพิเศษศรีรัช และมีที่อยู่อาศัยโดยรอบจำนวนมาก เป็นแหล่งของผู้อยู่อาศัยชั้นดี มีร้านอาหารขึ้นชื่อมากมาย อยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ใกล้ตลาดนัดสวนจตุจักร และห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และธนาคาร เป็นต้น
"ที่ตั้งของโครงการ อยู่ในทำเลที่ดี พื้นที่โดยรอบมีการพัฒนาศักยภาพสูง เป็นโซน Blue Ocean การแข่งขันน้อย ไม่ค่อยมีคู่แข่ง และหากเปรียบเทียบราคาขายต่อตร.ม.แล้ว ราคาย่านถนนประดิพัทธ์จะไม่สูงกว่าโซนซอยอารีย์ สะพานควาย กว่าครึ่ง ขณะที่ เรื่องตลาดปล่อยเช่า ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5"
โดยทางบริษัทฯจะเริ่มเปิดรอบการขายในเดือนพฤศจิกายน 2566 ในราคาขายเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท เฉลี่ยราคาต่อตร.ม.อยู่ที่ 1.3 แสนบาท คาดจะมียอดขายที่ดีตามเป้าที่วางไว้สูงถึง 40% ช่วงพรีเซล
นายวิทย์ กุลธนวิภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท แคปปิตอล วัน เรียลเอสเตท จำกัด (Capital One Real Estate) และ เคลเลอร์ วิลเลี่ยม ไทยแลนด์ (Keller Williams Thailand หรือ KW) เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2566 ว่า บริษัทฯมีแผนที่จะขยายธุรกิจในตลาดที่อยู่อาศัยมากขึ้น ซึ่งตลาดคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรียังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง และด้วยประสบการณ์ที่ทำธุรกิจในด้านบริการตลาดคอนโดมิเนียมมานาน มีผลงานสร้างยอดขายมูลค่ารวม ไม่น้อยกว่า 30,000-40,000 ล้านบาท
ล่าสุด บริษัท ปรีดา เรียลเอสเตท จำกัด ผู้พัฒนาธุรกิจโครงการคอนโดมิเนียม แบรนด์กรีเน่ คอนโด (GRENE CONDO) ผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมย่านดอนเมือง และมีบริษัทปรีดา โฮลดิ้ง จำกัด ที่อยู่ในอุตสาหกรรมก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพดี ในราคาที่เหมาะสมมามากกว่า 60 ปี ได้ไว้วางใจให้บริษัท แคปปิตอล วัน เข้ามาร่วมบริหารการขายโครงการมิกซ์ยูส (Mixed-Use) ของทางบริษัทปรีดา เรียลเอสเตท จำกัด เป็นการพัฒนา โครงการแฟลกชิป (Flagship Projects) แบรนด์ใหม่ บนโลเกชันดีย่านถนนประดิพัทธ์เป็นครั้งแรก
จุดขายโครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่ พัฒนาบนที่ดินมากถึง 3 ไร่ 3 งา 59 ตารางวา มี 1 อาคาร โดดเด่นด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่ให้มากถึง 3,200 ตารางเมตร (ตร.ม.) เปรียบเสมือนโอเอซิส (OASIS) แห่งใหม่ใจกลางเมือง แต่ละพื้นที่ภายในอาคาร ถูกจัดสรร ดีไซน์ให้มีพื้นที่รองรับการพักผ่อนของผู้อยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ
รูปแบบในการพัฒนาโครงการ จะมีส่วนของโครงการคอนโดมิเนียม มีพื้นที่อาคารสำนักงาน และพื้นที่ค้าปลีกให้เช่า (รีเทล) มูลค่าโครงการรวมสูงถึง 3,500 ล้านบาท โดยมีการออกแบบเป็นอาคารสูง 48 ชั้น (รวมดาดฟ้า) จำนวน 524 ยูนิต มีแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ 34.88 ตร.ม. จำนวน 329 ยูนิต, แบบ 1 ห้องนอน พลัส พื้นที่ 48 ตร.ม.จำนวน 31 ยูนิต ,แบบ 2 ห้องนอน จำนวน 54 ยูนิต จำนวน 33 ยูนิต ,แบบ Loft (1ห้องนอน) เริ่ม 38.47-47.39 ตร.ม.จำนวน 120 ยูนิต และ Loft (2นอน) พื้นที่ 68.75-80.15 ตร.ม. จำนวน 11 ยูนิต มีที่จอดรถทั้งหมด 335 คัน โดยตัวโครงการได้ผ่านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA Approved) และอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการ คาดจะก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผนในปี 2568
นอกจากนี้ ทางโครงการยังมีส่วนของอาคารสำนักงาน พื้นที่ 3,000 ตร.ม.รองรับธุรกิจเอสเอ็มอีที่มาเช่าพื้นที่ รวมถึงให้บริการแก่ผู้อยู่อาศัยที่เข้ามาใช้พื้นที่ในการทำงาน ยังตอบโจทย์เรื่องไลฟ์สไตล์ของการอยู่อาศัย กับพื้นที่ค้าปลีก (รีเทล) 500 ตร.ม. ที่จะมีร้านอาหารเข้ามาเช่าและเปิดให้บริการ
ในส่วนของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จะมีทั้งลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการมองหาที่พักอยู่ใกล้สถานที่ทำงาน เนื่องจากตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้สถานการศึกษา เช่น โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ใกล้สถานที่ราชการ เช่น รัฐสภาแห่งใหม่ กระทรวงการคลัง ใกล้สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สามารถเดินทางไปยังสถานีกลางบางซื่อ และห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวประมาณ 1 กิโลเมตร (กม.) ใกล้ทางด่วนพิเศษศรีรัช และมีที่อยู่อาศัยโดยรอบจำนวนมาก เป็นแหล่งของผู้อยู่อาศัยชั้นดี มีร้านอาหารขึ้นชื่อมากมาย อยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ใกล้ตลาดนัดสวนจตุจักร และห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และธนาคาร เป็นต้น
"ที่ตั้งของโครงการ อยู่ในทำเลที่ดี พื้นที่โดยรอบมีการพัฒนาศักยภาพสูง เป็นโซน Blue Ocean การแข่งขันน้อย ไม่ค่อยมีคู่แข่ง และหากเปรียบเทียบราคาขายต่อตร.ม.แล้ว ราคาย่านถนนประดิพัทธ์จะไม่สูงกว่าโซนซอยอารีย์ สะพานควาย กว่าครึ่ง ขณะที่ เรื่องตลาดปล่อยเช่า ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5"
โดยทางบริษัทฯจะเริ่มเปิดรอบการขายในเดือนพฤศจิกายน 2566 ในราคาขายเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท เฉลี่ยราคาต่อตร.ม.อยู่ที่ 1.3 แสนบาท คาดจะมียอดขายที่ดีตามเป้าที่วางไว้สูงถึง 40% ช่วงพรีเซล
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ