แนวทางการใช้ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ในการลงทุนอสังหาฯ

วันที่ : 31 พฤษภาคม 2566

ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย คือ ตัววัดราคาเฉลี่ยของบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ซึ่งประกอบไปด้วยดัชนีราคาบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ แต่ไม่รวมบ้านมือสอง โดยจะต้องเป็นโครงการที่มีหน่วยเหลือขายตั้งแต่ 6 หน่วยขึ้นไป ถือเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วงประกอบการตัดสินใจในการลงทุนให้มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามเป้าหมายในการลงทุนได้มากขึ้น โดยแนวทางในการใช้ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย เพื่อการลงทุนนั้น สามารถทำได้ ดังต่อไปนี้

ใช้ประเมินจังหวะในการเข้าซื้อ

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายสูงขึ้นหรือต่ำลงนั้น ก็คือ การที่ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปรับลดราคา หรือเพิ่มราคาของบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ เพื่อสร้างยอดขายให้ได้ตามเป้าหมายในแต่ละช่วงเวลา ดังนั้น นักลงทุนจึงสามารถใช้สัญญาณดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเข้าซื้อได้ โดยหากเมื่อดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายปรับลดลง ก็แสดงถึงสถานการณ์ตลาดที่ผู้ประกอบการโครงการบ้านจัดสรรกำลังลดราคามีโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย จึงอาจเป็นโอกาสดีในการเข้าซื้อเพื่อให้ได้ราคาที่คุ้มค่าและทำกำไรต่อได้มากขึ้นในอนาคต
ใช้ประเมินทำเลบ้านจัดสรรที่น่าลงทุน

เมื่อเจาะลึกเข้าไปในรายงานดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย จะมีการแบ่งย่อยลงเป็นดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ในกรุงเทพฯ และในจังหวัดปริมณฑลด้วย ตามรายงานของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนมองเห็นภาพโอกาสได้ว่าบ้านสรรใหม่ในทำเลใดที่มีราคาน่าสนใจในการซื้อเพื่อลงทุนมากกว่ากัน ยกตัวอย่างเช่น ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ไตรมาส 1 ปี 2566 ในกรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 126.0 ลดลง -0.2% (YoY) และ ลดลง -0.1% (QoQ) ในขณะที่ค่าดัชนีของ 3 จังหวัดปริมณฑล อันได้แก่สมุทรปราการ นนทบุรี และปทุมธานี มีค่าเท่ากับ 129.0 เพิ่มขึ้น 0.5% (YoY) และลดลง -2.6% (QoQ) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าบ้านจัดสรรใน 3 จังหวัดปริมณฑลมีราคาลดลงมากกว่าบ้านจัดสรรในกรุงเทพฯ ดังนั้น หากกลุ่มเป้าหมายในการลงทุนเป็นลูกค้าที่ต้องการบ้านในจังหวัดปริมณฑล จังหวะนี้ก็ถือเป็นโอกาสดีสำหรับการเข้าซื้อเนื่องจากราคาลดต่ำลงมาค่อนข้างมากจากไตรมาสก่อนหน้า
ใช้ประเมินความต้องการประเภทบ้านในตลาด

เนื่องจากดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายนั้น จะเป็นข้อมูลที่รวมกันของดัชนีราคาบ้านเดี่ยวและบ้านทาวน์เฮาส์ ทำให้เราสามารถแยกย่อยลงไปวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้อีกว่า ดัชนีราคาบ้านเดี่ยวกับบ้านทาวน์เฮาส์ในขณะนั้น ๆ บ้านประเภทใดมีความเคลื่อนไหวราคาเป็นอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น จากรายงานดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 1 ปี 2566 ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เมื่อเจาะลึกลงไปดูจะพบว่า ดัชนีราคาบ้านเดี่ยว มีค่าเท่ากับ 127.1 เพิ่มขึ้น 1.0% (YoY) แต่ -3.0% (QoQ) ในขณะที่ดัชนีราคาบ้านทาวน์เฮาส์ มีค่าเท่ากับ 129.7 เพิ่มขึ้น 0.5% (YoY) และเพิ่มขึ้น 0.3% (QoQ) สรุปได้คร่าว ๆ ว่าบ้านเดี่ยวมีราคาลดต่ำลงในขณะที่ทาวน์เฮาส์มีราคาเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจสะท้อนให้เห็นว่าผู้คนในตลาดต้องการบ้านเดี่ยวน้อยกว่า จึงทำให้ราคาบ้านเดี่ยวในไตรมาสนี้ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าถึง 3% ซึ่งนักลงทุนก็สามารถวางกลยุทธ์ได้หลากหลายแล้วแต่เป้าหมาย เช่นอาจเลือกซื้อบ้านเดี่ยวในไตรมาสนี้เพื่อหวังกำไรในอนาคตก็ได้ เพราะราคาปรับตัวลงมา หรือจะเลือกซื้อทาวน์เฮาส์ก็ได้ เพราะมีโอกาสขายได้ง่ายมากกว่าเนื่องจากในตลาดมีแนวโน้มต้องการทาวน์เฮาส์มากกว่าบ้านเดี่ยว เป็นต้น

แนวทางในการใช้ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในการลงทุนนั้น โดยหลักใหญ่แล้วจะเป็นไปเพื่อมองดูแนวโน้มราคาบ้านจัดสรรในตลาดทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ว่าสูงขึ้นหรือต่ำลงมากน้อยแค่ไหน จากนั้นจะตัดสินใจอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ในการลงทุนของแต่ละคน ดังนั้น นอกเหนือจากการเข้าถึงข้อมูลดัชนีราคาให้ได้อย่างทันสถานการณ์แล้ว นักลงทุนที่ต้องการจะประสบความสำเร็จ จึงต้องมีการตั้งเป้าหมายและรู้จักรูปแบบกลยุทธ์ในการลงทุนที่เหมาะกับตัวเองเป็นอย่างดีด้วย

ติดตามข้อมูลสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยได้ก่อนใครในทุกแง่มุมที่ https://www.reic.or.th/

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

ดัชนีราคาบ้านจัดสรรศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์