2564 ทำไมจึงเป็นปีทอง ของคนอยากมีบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์

วันที่ : 2 มิถุนายน 2564

ในขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทย สภาพเศรษฐกิจกำลังถูกเล่นงานจนทำให้ทุกธุรกิจต่างต้องพยายามอย่างหนักเพื่อความอยู่รอด แต่ในวิกฤตก็ยังดูเหมือนจะมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ โดยหนึ่งในโอกาสที่ว่านั้นก็คือ การได้มีบ้านเป็นของตัวเอง โดยในปี 2564 นี้ อาจถือว่าเป็นปีที่ดี และเป็นโอกาสทองของคนที่มีความพร้อมเพียงพอในการซื้อบ้าน โดยมีปัจจัยเข้ามาสนับสนุนหลักๆ 3 ข้อ ดังนี้

ราคาบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ลดลงกว่าปีก่อน

ผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID 19 ที่ยังคงรุนแรงและต่อเนื่องนั้น ทำให้สภาพเศรษฐกิจได้รับผลกระทบ ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ ที่อยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในไตรมาสแรกของปี 2564 จึงลดต่ำลงกว่าปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาเดียวกัน โดยดัชนีราคาบ้านเดี่ยว กรุงเทพฯ ลดลง 0.5% ปริมณฑลลดลง 0.2% ส่วนดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ ในกรุงเทพฯ นั้น ลดลง 0.2% และในปริมณฑลนั้นลดลง 0.1%

ดัชนีราคาบ้านเดี่ยว กทม. - ปริมณฑล (ปี 2555 = 100.0)

ดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ กทม. - ปริมณฑล (ปี 2555 = 100.0)
มีมาตรการภาครัฐสนับสนุนการซื้อที่อยู่อาศัย

ตลอดปี 2564 นี้ ถือว่ายังเป็นช่วงเวลาที่อยู่ในมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยจะได้รับการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และการจดจำนองสำหรับบ้านใหม่ ทำให้คนที่ซื้อบ้านเป็นที่อยู่อาศัยหลังแรก ไม่ว่าจะบ้านเดี่ยว หรือทาวน์เฮ้าส์ จะเสียค่าใช้จ่ายน้อยลงอย่างมาก นอกจากนี้ก็ยังมีการเลื่อนประกาศอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไปเป็นปี 2565 ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเหลือเพียง 10% ซึ่งส่งผลให้สำหรับคนที่ครอบครองบ้านและที่ดินมากกว่าหนึ่งหลังก็เสียค่าใช้จ่ายน้อยลง และยังถือเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่จะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไปพร้อมกันด้วย
โครงการต่างๆ อัดฉีดโปรโมชั่นเพื่อให้ขายง่ายขึ้น

ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เจ้าของโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ ต่างพยายามที่จะเร่งระบายสต็อกที่อยู่อาศัยให้จำหน่ายออกไปโดยเร็วที่สุดท่ามกลางการแพร่ระบาดที่อาจทำให้กำลังซื้อลดลง อันจะนำไปสู่การเหลือขายสะสมของที่อยู่อาศัย ที่เสี่ยงทำให้บริษัทขาดสภาพคล่อง โดยโปรโมชั่นต่างๆ ที่เลือกนำมาใช้ในการสนับสนุนการขายได้แก่ ส่วนลดค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์และหรือฟรีค่าส่วนกลาง 46.6% ของแถม เช่น เครื่องปรับอากาศ เฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน ปั๊มน้ำ แท้งก์น้ำ ฯลฯ 32.8% และส่วนลดเงินสด 20.5%

แม้ราคาบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ในกรุงเทพฯ - ปริมณฑล ไตรมาสแรกของปี 64 จะลดต่ำลงมากว่าปีก่อนในช่วงเวลาเดียวกัน แต่หากเทียบกับไตรมาสที่แล้ว คือช่วงปลายปีที่ผ่านมา ก็ยังถือว่าขยับตัวสูงขึ้น แต่ขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งเมื่อได้ปัจจัยช่วยอย่างมาตรการรัฐและโปรโมชั่นส่งเสริมการขายมาสนับสนุน ก็ถือว่าเป็นช่วงโอกาสที่ดีสำหรับคนที่ต้องซื้อที่อยู่อาศัย แต่ก่อนตัดสินใจซื้อ ก็จำเป็นจะต้องพิจารณาถึงความพร้อมทางการเงินให้รอบคอบก่อนด้วยว่า เราสามารถรับผิดชอบผ่อนชำระได้ไหวจริงๆ หรือไม่ ต้องวางแผนคิดเผื่อในระยะยาวให้ดี เพราะในสภาพเศรษฐกิจที่กำลังมีปัญหาเช่นนี้ การมีหนี้บ้านก็อาจทำให้สภาพคล่องของตัวเราเองติดขัดได้เช่นกัน ซึ่งหากเป็นแบบนั้นการซื้อบ้านที่แม้จะเป็นในช่วงโอกาสทอง ก็อาจทำให้เราทุกข์ใจได้มากกว่าที่จะมีความสุข

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC)