MBK โบรกส่องผลงานโค้งสองโต 72.8% ทะลุ 922 ล้านบาท ขณะที่เข้าถือหุ้น "สยามพิวรรธน์" เพิ่มเชื่อหนุนการเติบโตระยะยาว ดันพื้นที่เช่าแตะ 6.36 แสนตร.ม. ในปี 2563 พร้อมเดินหน้าเปิดตัวไอคอนสยาม ไตรมาส 4/2561 ตามแผน แถมแจกปันผลดีต่อเนื่อง 3.3-4.2% เคาะเป้า 29.50 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) หรือ MBK จะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2561 มีกำไรสุทธิ 922 ล้านบาท เติบโต 72.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเติบโต 87% จากไตรมาสก่อนหน้า จากการขายเงินลงทุนใน บริษัทดุสิตธานี (DTC) หากไม่รวมรายการนี้ คาดว่ากำไรหลักจะอยู่ที่ 537 ล้านบาท ทรงตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน และเติบโต 9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า จากรายได้จากเงินปันผล

ลงทุน SPW หนุนโต

ส่วนรายได้รวมของ MBK จะลดลง 6.5% จากไตรมาสก่อนหน้า มาอยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท เนื่องจากผลของฤดูกาลในธุรกิจโรงแรมและสนามกอล์ฟ คาดว่ากำไรขั้นต้นปกติจะลดลง จากไตรมาสก่อนหน้าเป็น 46% จากในไตรมาส 1/2561 ที่ 46.7% กำไรหลักของครึ่งปีแรกของปี 2561 คิดเป็น 49% ของประมาณการทั้งปี

อีกทั้งก่อนหน้านี้ MBK ได้ระดมเงินลงทุนประมาณ 2.2 พันล้านบาท ผ่านการจำหน่ายเงินลงทุนใน บริษัท ดุสิตธานี (DTC.BK / DTC TB) และรอยัลออร์คิด (ROH.BK / ROH TB) ในขณะเดียวกัน บริษัทได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น SPW เป็น 49.9% จาก 31.7% ก่อนหน้าโดยมีมูลค่าการทำธุรกรรมรวม 1.6 พันล้านบาท โดยเป็นมุมมองเชิงบวกต่อการทำธุรกรรมดังกล่าวเนื่องจาก SPW สามารถเติบโตได้ในระยะปานกลางถึงยาว คาดว่าพื้นที่ให้เช่ารวมทั้งหมดของ MBK รวมถึงห้างสรรพสินค้าที่ดำเนินการโดย SPW จะเพิ่มขึ้นเป็น 636,000 ตารางเมตรในปี 2563 จาก 451,000 ตารางเมตรในปี 2560

เปิดไอคอนสยามตามแผน

อย่างไรก็ดีบริษัทมีการปรับปรุงศูนย์การค้าและการเงินที่แข็งแกร่งจะช่วยชดเชยรายได้จากโรงแรมที่อ่อนแอลง โดยคาดว่ารายได้จากศูนย์การค้าจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากอัตราการเข้าพักที่เพิ่มขึ้นของพาราไดซ์เพลสหลังจากการปรับปรุงชั้น นอกจากนี้รายได้จากธุรกิจการเงินของ MBK จะเติบโตขึ้นตามการขยายพอร์ตการลงทุนรวมอยู่ประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 1/2561 ซึ่งจะช่วยลดผล กระทบจากฤดูกาลตามรายได้จากธุรกิจโรงแรมและสนามกอล์ฟ

ส่วนครึ่งปีหลัง MBK เปลี่ยนไปเพิ่มส่วนแบ่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และลดการดำเนินธุรกิจโรงแรมคาดว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการเริ่มดำเนินการเชิงกลยุทธ์ในไตรมาส 3 ปีหน้า นอกจากนี้ยังคาดว่ารายได้จากศูนย์การค้าจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 4/2561 เนื่องจาก ICONSIAM ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมผสมผสานความหรูหราของสยาม พิวรรธน์ (SPW) และการเข้าลงทุนในSPW จะช่วยให้รายได้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้นด้วย

เคาะเป้า 29.50 บาท

ทั้งนี้ ยังคงคำแนะนำ "Out-perform" ด้วยราคาเป้าหมายที่ 29.50 บาท ราคาปิดล่าสุดสะท้อนถึง PER ที่คาดการณ์ไว้ที่ 20.0 เท่าโดยประมาณ + 1.0 เท่าของประมาณการทางประวัติศาสตร์ อัตราเงินปันผลตอบแทนยังอยู่ในช่วง 3.3-4.2% ในช่วงปี 2561-2563

ขณะที่ล่าสุด MBK ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ในการคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติในหลักการเบื้องต้นให้มีการปรับโครงสร้างการถือหุ้นในบริษัทย่อย ในวันที่ 2 สิงหาคม 2561 เพื่อให้การบริหารจัดการภายในมีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ โดยให้บริษัท เอ็ม บี เค เอ็นเตอร์ไพร้ส จำกัด (MBK-EP) (ซึ่งมีฐานะเป็นบริษัทย่อยโดยตรงที่ MBK ถือหุ้นอยู่ 99.99%) ขายหุ้นที่ถือใน บริษัท เอส ซี บีบิลดิ้ง จำกัด (SCB-B) (ซึ่งมีฐานะเป็นบริษัทย่อยโดยตรงที่ MBK-EP ถือหุ้นอยู่ 99.80% และเป็นบริษัทย่อยโดยอ้อมของ MBK) ให้แก่ บริษัท เอ็ม บี เค ช็อปปิ้ง เซ็นเตอร์ จำกัด (MBK-SC) (ซึ่งมีฐานะเป็นบริษัทย่อยโดยตรงที่ MBK ถือหุ้นอยู่ 99.99%) จำนวน 998 หุ้น รวมเป็นเงิน 100,000 บาท