"ศุภาลัย" ทุ่ม 4 พันล้าน ทำเทนเดอร์หุ้น "มั่นคงเคหะการ" ราคา 4.10 บาท ลั่นหวังเพิ่มโอกาสขยายธุรกิจ พร้อมเสริมศักยภาพให้ตัวบริษัท ย้ำไม่มีนโยบายนำหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์ ขณะราคาหุ้นมั่นคงตอบรับ ปิดตลาดพุ่ง 23%

นางวารุณี ลภิธนานุวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการและเลขานุการบริษัท บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ มีมติให้บริษัท ศุภาลัย พรอพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SPM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นอยู่ 99.99% ทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด 100% หรือจำนวน 992.01 ล้านหุ้น ในบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน)โดยสมัครใจในราคาหุ้นละ 4.10 บาท รวมเป็นมูลค่าประมาณ 4.07 พันล้านบาท

ทั้งนี้บริษัทมีเงื่อนไขการรับซื้อหุ้น โดยจะทำการยกเลิกคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด หากเมื่อสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อแล้วมีผู้เสนอขายหุ้นจำนวนน้อยกว่า 25% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้ง หมดของ มั่นคงเคหะการ ทั้งนี้การทำคำเสนอซื้อไม่ได้มีเจตนาเพื่อการเพิกถอนหลักทรัพย์การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มโอกาสการขยายธุรกิจการลงทุนในบริษัทซึ่งมีทรัพย์สินที่บริษัทสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ เช่น ที่ดินเปล่า โครงการอสังหาริมทรัพย์ระหว่างการพัฒนา เป็นต้น โอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการที่บริษัทและ มั่นคงเคหะการมีจุดเด่นและความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกันสำหรับ แหล่งเงินลงทุน จะได้รับการสนับสนุนเงินทุน จากบริษัทโดยการเพิ่มทุนหรือการกู้ยืม จากบริษัทหรือได้รับการสนับสนุนจากบริษัทในการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน สำหรับทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของกิจการ

นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2561 มีมติให้บริษัท ศุภาลัย พรอพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SPM) ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดในบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน)โดยสมัครใจ ในราคาหุ้นละ 4.10 บาท สาเหตุที่ศุภาลัยมีความสนใจในการทำ VoluntaryTender Offerเนื่องจากมั่นคงเคหะการเป็นผู้พัฒนา อสังหาริมทรัพย์ดำเนินธุรกิจมีความโดดเด่น และเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพให้กับศุภาลัย ในโครงการคลังสินค้า ธุรกิจสนามกอล์ฟ ที่บริษัทดำเนินการอยู่ รวมถึงมีที่ดินที่มีทำเลดีต้นทุนที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับราคาที่ดิน ในปัจจุบัน

ศุภาลัยมีความพร้อมทางด้านการเงินสูง เพราะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านยอดขาย ผลประกอบการ และมีกระแสเงินสดที่ดีจากภาระหนี้ไม่สูงมากเนื่องจากมีการเพิ่มทุนไปเมื่อปีที่ผ่านมาและมีต้นทุนการเงินที่ต่ำกว่า 3% จึงมั่นใจว่าจะสามารถทำรายการได้

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมี มุมมองเป็นกลางถึงบวกเล็กน้อยต่อการเข้าทำรายการ โดยศุภลัยเข้าซื้อมั่นคงเคหะการอาจจะไม่เพิ่มการร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัทมากนักเนื่องจากเป็นธุรกิจเดิมที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว เพียงแต่ธุรกิจคลังสินค้าที่ศุภลัยยังไม่มีส่วนดังกล่าว

สิ่งที่ศุภลัยจะได้คือสินทรัพย์ทั้งหมดที่มีอยู่ 9 โครงการ และธุรกิจสนามกอล์ฟและคลังสินค้า โดยแหล่งที่มาของเงินทุนมาจากเงินทุนหมุนเวียนและเงินกู้ยืม ซึ่งบริษัทสามารถรองรับวงเงินการเข้าลงทุนครั้งนี้ได้

สำหรับความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นมั่นคงฯ หลังปรากฏข่าว ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเปิดตลาดเช้า ก่อนจะมาปิดตลาดที่ระดับ 4.08 บาท เพิ่มขึ้น 0.78 บาท คิดเป็น 23.64% มูลค่าการซื้อขายรวม 481.46 ล้านบาท

ส่วนหุ้น ศุภาลัย ปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 24.50 บาท ลดลง 1 บาท คิดเป็น การลดลง 3.92% มูลค่าการซื้อขายรวม 442.41 ล้านบาท