'เอพี'ปรับเพิ่มปูพรม43โครงการ มูลค่า6.47หมื่นล.มากสุดตั้งแต่ก่อตั้ง
Loading

'เอพี'ปรับเพิ่มปูพรม43โครงการ มูลค่า6.47หมื่นล.มากสุดตั้งแต่ก่อตั้ง

วันที่ : 15 พฤษภาคม 2561
'เอพี'ปรับเพิ่มปูพรม43โครงการ มูลค่า6.47หมื่นล.มากสุดตั้งแต่ก่อตั้ง

"เอพี ไทยแลนด์" เดินหน้าปรับแผนธุรกิจรับตลาดอสังหาฯ บูม ทั้งปี 2561 เปิดตัวโครงการใหม่มากถึง 43 โครงการ มูลค่า 64,750 ล้านบาท มากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ครึ่งปีหลังปูพรมโครงการแนวราบกว่า 30 ทำเลใหม่ และคอนโดฯ 3 ทำเลเด็ด เผยไตรมาสแรกเติบโตอย่างมั่นคง ยิ้มรับผลความสำเร็จทั้งจากสินค้าแนวราบ และคอนโดฯ ร่วมทุน ส่งผลให้มีรายได้รวมมากกว่า 6,500 ล้านบาท ด้าน DDproperty มั่นใจแนวโน้มตลาดปีจอเปิดโครงการใหม่คึกคัก แม้ยอดอุปทานสูงขึ้น แต่ไม่ถึงขั้นเกิดปัญหาโอเวอร์ซัปพลาย

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 2 มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น จากปัจจัยบวกหลายประการ กำลังซื้อในธุรกิจอสังหาฯยังมีอยู่มาก สถานการณ์โดยรวมของตลาดโดยเฉพาะสินค้าแนวราบมีสัญญาณการตอบรับที่ดีมาก ยอดขายและยอดรับรู้รายได้ในฝั่งของสินค้าแนวราบของเอพีปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ ดังนั้น เอพีจึงเดินหน้าปรับแผนธุรกิจด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มจากแผนเดิม ส่งผลให้ทั้งปี เอพีจะเปิดตัวโครงการใหม่มากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท จำนวนทั้งสิ้น 43 โครงการ มูลค่า 64,750 ล้านบาท เป็นทาวน์โฮมจำนวน 21 โครงการ มูลค่า 18,550 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 17 โครงการ มูลค่า 20,800 ล้านบาท และคอนโด- มิเนียม 5 โครงการ มูลค่า 25,400 ล้านบาท

โดยในช่วงที่ผ่านมา เอพี ได้เปิดไปแล้ว 7 โครงการ คงเหลือเปิดตัวในเดือนมิถุนายนอีก 1 โครงการ คือ บ้านกลางเมือง วัชรพล และเตรียมเปิดตัวในไตรมาส 3 จำนวน 16 โครงการ มูลค่า 29,000 ล้านบาท และในไตรมาส 4 จำนวน 19 โครงการ มูลค่า 25,380 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตที่สูง โดยมีรายได้รวมจากสินค้าแนวราบและคอนโดฯ ร่วมทุน (รวม 51% โครงการร่วมทุน) สูงถึง 6,533 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% หากเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีรายได้รวมเท่ากับ 5,127 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิสูงกว่า 800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47%

ทั้งนี้ ความคืบหน้าทางด้านยอดขายไตรมาส 1 สามารถสร้างยอดขายได้แล้วถึง 10,000 ล้านบาท เติบโตราว 170% โดยสินค้าแนวราบเติบโต 64% หรือเท่ากับ 5,200 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมโตกว่า 7 เท่า หรือเท่ากับ 4,800 ล้านบาท  ซึ่ง ณ วันที่ 30 เมษายน 2561 เอพีสร้างยอดขายได้มูลค่า 12,290 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯสามารถสร้างยอดขายได้แล้ว 37% ของเป้ายอดขายปี 2561 ที่ตั้งไว้ (เป้ายอดขาย 33,500 ล้านบาท)

"บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ประกอบกับการปรับแผนธุรกิจรุกตลาดแนวราบมากยิ่งขึ้น และคอนโดมิเนียม ไฮไลต์ จะสามารถสร้างยอดขายและยอดรับรู้รายได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างแน่นอน" และ ณ 30 เมษายน 2561 บริษัทฯ มีสินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ามากถึง 47,100 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบมูลค่าราว 6,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ทั้งหมดภายในปีนี้ และคอนโดมิเนียมมูลค่า 41,100 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2565

อสังหาฯกรุงเทพฯราคาที่โตต่อเนื่อง

จากรายงานดัชนีอสังหาริมทรัพย์ DDproperty Property Index ฉบับล่าสุด ซึ่งจัดทำโดย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เว็บไซต์สื่อกลางซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทยภายใต้การบริหารของพร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป พบว่านับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2561 เป็นต้นมาตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพมหานครมีแนวโน้มเป็นบวก โดยดัชนีราคามีการปรับเพิ่มขึ้นจาก 205 จุด เป็น 213 จุดในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2561 (1Q61) สอดคล้องกับแนวโน้มการค่อยๆ ฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศที่คาดว่าจะมีการขยายตัวของ GDP หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในปีนี้ราวร้อยละ 4.2 ซึ่งถือเป็นการขยายตัวในระดับเต็มศักยภาพ

นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา จะพบว่ามีบริษัทอสังหาฯ หรือทุนจากต่างชาติเข้ามาสู่ตลาดอสังหาฯกรุงเทพฯ ในรูปแบบของการร่วมทุน (Joint Venture) พัฒนาโครงการบนทำเลที่มีศักยภาพในเขตกรุงเทพฯ อยู่หลายรายด้วยกัน

"หากจะพูดว่าสถานการณ์ตลาดในปัจจุบัน เป็นจังหวะที่ดีของผู้ที่มีกำลังซื้อคงไม่ผิด ด้วยสินค้าในตลาดที่มีให้เลือกหลากหลาย ในขณะที่ผู้ประกอบการเองต่างก็แข่งขันกันออกแคมเปญและโปรโมชันต่างๆ มาดึงดูดใจผู้ซื้อมากมาย ผนวกกับอัตราดอกเบี้ย ที่ค่อนข้างต่ำในปัจจุบันและแนวโน้มมูลค่าของอสังหาฯ ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต แม้อุปทานที่มีอยู่ในปัจจุบันจะมีจำนวนค่อนข้างสูง แต่เชื่อว่ายังไม่อยู่ในระดับที่น่ากังวลถึงภาวะโอเวอร์ซัปพลายในอนาคตอันใกล้แต่อย่างใด"

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน 360 องศา