อสังหาฯ เดินหน้าผนึกกลุ่มทุนทั้งในไทยและต่างชาติ เสริมแกร่งชี้ลงทุนอาคารสำนักงานขยับเพิ่ม

นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) หรือ เจแอลแอล เปิดเผยว่า ปัจจุบันยังมีกลุ่มนักลงทุนและกองทุนต่างชาติจากตะวันออกกลาง สิงคโปร์ และสหรัฐ สนใจเข้ามาซื้ออาคารสำนักงานในไทย เพื่อหารายได้จากผลตอบแทนการเช่าเป็นหลัก เนื่องจากเห็นว่าอัตราค่าเช่าอยู่ในช่วง ขาขึ้นจากการมีอุปทานใหม่จำกัดและมีอัตราการใช้งานสูงพื้นที่ว่างเหลือ 7-8%

"ตลาดอาคารสำนักงานของไทยในเวลานี้ไม่มีของขายที่น่าลงทุน เพราะผลตอบแทนการลงทุน หรือยิลด์ อยู่ที่ 6.5-7% ต่อปี ซึ่งนับว่าสูงมากและค่าเช่าอยู่ในช่วงขาขึ้น สัญญาเช่าส่วนใหญ่อยู่ 3 ปี แต่เวลาจะต่อสัญญาเช่ากับผู้เช่าเดิมนั้น จะปรับค่าต่อสัญญาใหม่ประมาณ 15% หรือขยับขึ้นเฉลี่ยปีละ 5%" นางสุพินท์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ค่าเช่าจะขึ้นอยู่กับการใช้พื้นที่ของผู้เช่าด้วย ซึ่งปัจจุบันตึกใหม่อัตราค่าเช่าอยู่ที่ใกล้แตะ 900 บาท/ตารางเมตร (ตร.ม.) ที่เป็นสำนักงานไพรม์เกรด ขณะที่อาคารสำนักงานที่มีพื้นที่มากกว่า 2,000 ตร.ม. จะหายาก เนื่องจากอาคารส่วนใหญ่ในพื้นที่ซีบีดี พื้นที่ที่เหลือมีขนาดเล็ก ส่วนใหญ่อยู่ที่ 500 ตร.ม. หรือ 1,000 ตร.ม.

ด้าน นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค กล่าวว่า บริษัทเตรียมเซ็นสัญญาร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัท ฮ่องกงแลนด์ วันที่ 16 พ.ค.นี้ เพื่อพัฒนาโครงการบ้านหรู ซึ่งยังมีความต้องการสูง

นายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยตลาด ไรส์แลนด์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า การที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ มาร่วมมือกันทางธุรกิจ ส่วนใหญ่จะเน้นพัฒนาโครงการอสังหาฯ เพื่อขายเป็นหลัก ทั้งคอนโดมิเนียมและบ้าน เนื่องจากสามารถรับรู้รายได้ทันทีหลังการขาย