นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ผลสำรวจตลาดอาคารสำนักงานกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบมีพื้นที่สำนักงานรวม 8.6 ล้านตารางเมตร (ตร.ม.) โดยโซนสีลม-สาทร มีพื้นที่สำนักงานสูงสุดอันดับ 1 มีพื้นที่สำนักงานเช่า 2.1 ล้านตร.ม.หรือ 24% ของพื้นที่สำนักงานรวม รองมาคือสุขุมวิทมี 1.7 ล้านตร.ม. หรือ20% และโซนรัชดาภิเษก 1.2 ล้านตร.ม. คิดเป็น 14%

"โซนสีลม-สาทร เริ่มเป็นทำเลที่มีพื้นที่สำนักงานร่วม (co-working space) ที่เติบโตตามกระแสเศรษฐกิจแบ่งปัน ที่กำลังมาแรงในกลุ่มคนทำงาน ซึ่ง co-working space ยังมีแนวโน้มเติบโตทั่วโลก และในไทยเองมีการเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน โดยล่าสุดในปี 60 พบว่ามีผู้ใช้บริการทั่วโลก 1.74 ล้านราย เติบโตจากปี 58 เฉลี่ย 83%"

สำหรับ co-working space ในประเทศไทยเริ่มมีความต้องการหลังจากผ่านเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 54 ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีพื้นที่ co-working space ทั้งหมด 91 แห่งทั่วประเทศ โดย 70% เป็นพื้นที่ที่ให้บริการในกรุงเทพฯ และ 30% ไปกระจายอยู่ตามหัวเมืองต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา โดยมีอัตราค่าใช้บริการรายวัน 180-500 บาท หรืออาจคิดค่าบริการแบบเหมารายเดือน 3,000-7,450 บาท ด้วยรูปแบบที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์การทำงานของคนรุ่นใหม่ ทำให้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาธุรกิจมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 35% ล่าสุดพบว่ามีผู้ให้บริการต่างชาติ เช่น JustCo ได้เข้ามาเปิดให้บริการในทำเล สีลม-สาทร ซึ่งถือเป็นทำเลยอดนิยมของกลุ่มคนทำงาน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดที่อยู่อาศัยในย่านสีลม-สาทรนั้น พบว่าเหลือพื้นที่ในการพัฒนาโครงการจำกัด ส่งผลให้มีความต้องการด้านที่อยู่อาศัยสูง ทั้งความต้องการในการซื้อต่อและความต้องการเช่า ทำให้คอนโดมิเนียมในทำเลนี้มีราคาปรับตัวขึ้นมาอย่างน่าสนใจ โดยราคานำกลับมาขายใหม่ (resale) และผล ตอบแทนจากการปล่อยเช่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจทั้งคู่ โดยในส่วนของตลาดรีเซล มีผลตอบแทนการขายต่อ 4-5% ต่อปี ราคาขายต่อเฉลี่ยประมาณ 230,000 บาท/ตร.ม. ขณะที่ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (rental yield) อยู่ที่ประมาณ 4-5% ต่อปี