อรวรรณ จารุวัฒนะถาวร

ทำเลชานเมืองกรุงเทพฯ แต่อยู่ใกล้กับระบบโครงข่ายคมนาคมขนส่งและรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายยังคงได้รับความสนใจจากบรรดาผู้ประกอบการอสังหาฯ รวมไปถึงผู้บริโภค ขณะที่ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กยังคงหาช่องว่าง ในการทำตลาดที่รายใหญ่มองข้าม ซึ่งถือว่าเป็นการปรับตัวสู้กับบิ๊กเนม นอกเหนือจากสินค้าที่มีความแตกต่างในราคาที่ผู้บริโภคเอื้อมถึง

สุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนยังมีการเติบโตที่ดี เนื่องจากปัจจุบันมีกลุ่มที่ต้องการขยายครอบครัวและเริ่มมองหาที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งโซนกรุงเทพฯ ตะวันตกเป็นทำเลที่มี ศักยภาพ ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกและ เดินทางเข้าเมืองได้อย่างสะดวก

ทั้งนี้ บริษัทมองเห็นถึงโอกาส ในการทำตลาดเพราะยังมีช่องว่าง ที่จะสามารถเข้าไปเจาะตลาดได้ ขณะที่การแข่งขันยังไม่รุนแรงซึ่งอุปทาน มีไม่มากและความต้องการมีปริมาณสูง อีกทั้งที่ดินยังมีให้พัฒนาอยู่มาก และเมื่อนำมาพัฒนาแล้วราคายังไม่ สูงเกินกำลังซื้อของผู้บริโภค ดังนั้นใน ปีนี้บริษัทมีแผนพัฒนาบ้านเดี่ยวในทำเลปิ่นเกล้า ราคาขายเฉลี่ยที่ประมาณ 10 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีแผนพัฒนาบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ในทำเลบางใหญ่ ราคาขายเริ่มที่ 5 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งถือว่าเป็นการรุกการทำตลาดบนครั้งใหญ่ โดยเบื้องต้นมีแผนพัฒนา 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 1,200 ล้านบาท

ด้านงบลงทุนในปีนี้บริษัทตั้งงบซื้อที่ดินที่ 500-800 ล้านบาท เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในปี 2562 โดยจะขยายตลาดในระดับพรีเมียมมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้อยู่ที่ 1.5-2 แสนบาท/เดือน ให้มีสัดส่วนมากกว่า 50% ในช่วง 1-2 ปีจากนี้ จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 20-30% โดยตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้ที่ 900-1,000 ล้านบาท หรือเติบโตจากปีก่อน 10-20%

อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงพัฒนาโครงการในโซนกรุงเทพฯ ตะวันตกและย่านนนทบุรี เพราะมั่นใจในกำลังซื้อในตลาด ขณะที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญในพื้นที่และผู้บริโภครู้จักแบรนด์เป็นอย่างดี

สุทธิรักษ์ กล่าวว่า ปีนี้จะเริ่มเห็น ผู้ประกอบการรายกลางและเล็กขยับเข้าใกล้เมืองมากขึ้น ซึ่งโซนฝั่งธนบุรีอย่างทำเลบนถนนจรัญสนิทวงศ์ บางแค จะมีความคึกคักอย่างมากเมื่อโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค ที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดบริการในปี 2562

สำหรับพื้นที่ใน จ.นนทบุรี มีแนวโน้มการใช้ประโยชน์ที่ดินจะ มีการเปลี่ยนแปลงจากการปรับปรุงผังเมืองรวมนนทบุรี ครั้งที่ 2 ซึ่งจะ ส่งผลต่อราคาที่ดินปรับสูงขึ้นมาก ในบางทำเล เช่น บริเวณรอบๆ เซ็นทรัล พลาซา เวสต์เกต ในซอยวัดพระเงิน และวัดลาดปลาดุก เป็นต้น เฉลี่ยปรับขึ้น 20-25% ทั้งนี้การปรับขึ้นของราคาที่ดินทำให้บริษัทนักพัฒนาอสังหาฯ รายกลางและเล็กต้องย้ายการพัฒนาไปยังพื้นที่อื่นๆ ขณะที่ผู้บริโภคระดับกลางถึงล่างจะมีทางเลือกในการซื้อ ที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดเท่านั้น

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีที่ดินเปล่าที่ ต.กมลา จ.ภูเก็ต 105 ไร่ ที่เตรียมจะพัฒนา โดยจะเน้นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่เป็นจุดขาย ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการชิงส่วนแบ่งตลาดในช่วง 1-2 ปี นับจากนี้