บิ๊กแบรนด์ 5 รายใหญ่ เปิดศึกช้างชนช้างงัดแคมเปญท้าชนตั้งแต่ต้นปี ค่ายพฤกษาถือโอกาสครบรอบ 25 ปี จัดหนักอยู่ฟรี 25 เดือน-แจกฮอนด้าแจ๊ซ 25 คัน ระบายสต๊อกบ้านพร้อมอยู่ 5 พันหน่วย แอล.พี.เอ็น.ปรับคอนโดฯ รังสิตเฟส 3 ปล่อยเช่าเดือนละ 3 พันบาท 3,000 หน่วยทั้งโครงการ

เริ่มเห็นสัญญาณร้อนของตลาดอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ต้นปี กระตุ้นการขายสต๊อกสินค้าพร้อมอยู่ทั้งคอนโดมิเนียมและแนวราบ ตลอดจนโครงการเปิดใหม่ โดยหลายบริษัทงัดแคมเปญเด็ดชิงกำลังซื้อกันฝุ่นตลบ แม้แต่บิ๊กแบรนด์ 5 รายใหญ่ยังเก็บอาการไม่อยู่ จากปัจจัยกำลังซื้อยังไม่ฟื้นเต็มที่ตามคำพยากรณ์ ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ยังสวมบทเข้มต่อเนื่อง

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษาเรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า "ยอมรับว่าการแข่งขันดุเดือดตั้งแต่ต้นปี ทุกค่ายทุกแบรนด์แม้แต่ระดับท็อปไฟว์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่างเล่นเต็มที่ เรียกว่าศึกช้างชนช้าง โดยหลายค่ายต่างออกแคมเปญกระตุ้นการตัดสินใจทั้งโครงการพร้อมอยู่และโครงการใหม่ ซึ่งแนวราบจะมี แลนด์แอนด์เฮ้าส์, ศุภาลัย, เอพี, ควอลิตี้เฮ้าส์ และ พฤกษา ขณะแนวดิ่ง มีพฤกษา  ศุภาลัย เอพี แอล.พี.เอ็น. และอนันดาฯ

การแข่งขันเกิดจากกำลังซื้อยังไม่ดีจริง  ขณะผู้ประกอบการเข้ามาในตลาดทั้งแนวราบแนวดิ่งมากจนเกิดซัพพลายล้น ทางออกของบริษัท ก็คือการคัดกลุ่มลูกค้า และร่วมมือกับธนาคาร เพื่อให้ลูกค้ากู้ง่ายขึ้น ด้วยการจัดแพ็กเกจ "สินเชื่อดีๆ มาแต่ตัวเข้าอยู่ได้" ซึ่งบริษัทถือโอกาสที่บริษัทครบรอบ 25 ปี นำบ้านพร้อมโอนทั้งแนวราบแนวดิ่งกว่า 100 โครงการ  5,000 หน่วย  มูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาทแยกเป็นแนวราบ 3,000 หน่วย มูลค่า 9,000 ล้านบาท แนวสูง จำนวน 2,000 หน่วย มูลค่า 7,000 ล้านบาท อัดฉีดแคมเปญ รถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า แจ๊ส 25 คัน  โดยใช้วิธีจับสลาก ส่วนแคมเปญอยู่ฟรี 25 เดือน  บริษัทรับภาระดอกเบี้ยแทนลูกค้า โดยร่วมกับ ธนาคารกรุงเทพและกสิกรไทย คาดเริ่มกลางเดือนนี้

อย่างไรก็ดีคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ ยังขายได้เร็วกว่าแนวราบ ซึ่งล่าสุดเปิดตัวโครงการทรีคอนโดฯซอยลาดพร้าว 15 ราคา 8 หมื่นบาทต่อตารางเมตร หมดภายใน 2 วัน

ขณะที่นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม  บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท และนายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวถึงยอดโอนบ้านและคอนโดมิเนียมทั้งอุตสาหกรรมในเขตกรุงเทพ มหานคร-ปริมณฑล ปี 2560 ติดลบ 7% ยอดโอนจำนวน 163,468 หน่วย มูลค่า 427,728 ล้านบาทเทียบปี 2559  ยอดโอน 175,315  หน่วย มูลค่า  444,113 ล้านบาทเกิดจากทุกค่ายต่างปรับตัวหันไปพัฒนาคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ เพราะตลาดระดับอื่นติดปัญหาหนี้ครัวเรือนและแบงก์เข้มสินเชื่อ ประกอบกับคอนโดมิเนียมใช้เวลาก่อสร้างนาน 2 ปีทำให้ยอดโอนคอนโด มิเนียมหายไป

ด้าน นายสุริยา สุริยาภิวัฒน์ ผู้จัดการสำนักวิจัย บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่รอขาย 4,000 หน่วย มูลค่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทใช้กลยุทธ์ดึงราคาลง 40% ให้เท่ากับราคาช่วงเปิดขายโครงการใหม่ๆซึ่งเป็นจิตวิทยา และเน้นกลุ่มเงินออมเหมาโครงการปล่อยเช่า ทำให้ขายได้เร็ว จากจำนวนเกือบ 1 หมื่นหน่วยเหลือเพียง 4,000 หน่วย ทั้งเฟส 1 และ 2 และปีนี้ยังใช้แคมเปญเดิมต่อ เพราะรังสิตมีดีมานด์เช่าสูง ทำให้บริษัทต้องปรับแผน เฟส 3 จากขายราคา 6-7 แสนบาทต่อหน่วยเป็นเช่าทั้งโครงการ  3,000 หน่วยค่าเช่าเดือนละ 3,000-4,000 บาท ส่วนโครงการเปิดใหม่จะได้ส่วนลดช่วงเปิดตัว ซึ่งปีนี้เปิด  2 โครงการ คือทำเลสุทธิสาร  500-600 หน่วย และสุขุมวิท 76 อีก 600 หน่วย

ปี60 ยอดโอนบ้านและคอนโดฯทังอุตสาหกรรมในกทม.-ปริมณฑล ติดลบ 7%