เอ็น.ซี.ฯ เชื่ออสังหาฯ ปี 61 โต พร้อมเดินหน้าเปิดตัว 3 โครงการใหม่มูลค่า 2,500 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 2,700 ล้านบาท ยอดรับรู้รายได้ 1,700 ล้านบาท

นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในปี 2561 ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดีทั้งในกรุงเทพฯปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC รวมถึงเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับอานิสงส์จากกลุ่มผู้ซื้อชาวต่างชาติ ทั้งนี้ EEC จะช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการเข้าไปลงทุนใน EEC มากขึ้น

สำหรับแผนการลงทุนใน EEC ของบริษัทจะดำเนินการตามแผนที่วางไว้ โดยชลบุรียังเป็นฐานใหญ่ ปัจจุบันมีที่ดินรอการพัฒนา(แลนด์แบงก์)อยู่หลายสิบไร่ สามารถพัฒนาได้ทั้งแนวราบและแนวสูง ทั้งนี้ ราคาที่ดินปรับขึ้นสูงหลายสิบเปอร์เซ็นต์ หลังจากที่หยุดซื้อมา 2 ปี ขณะเดียวกันก็มีผู้เสนอขายที่ดินทำเลระยอง แต่อยู่ระหว่างการพิจารณา อย่างไรก็ตามแนวทางการพัฒนาจะเน้นในกทม.ปริมณฑล สัดส่วน 80% และต่างจังหวัดสัดส่วน 20%

ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย คาดว่าจะปรับขึ้นเล็กน้อย คาดว่าดอกเบี้ยนโยบายจะเริ่มปรับในช่วงครึ่ง ปีหลังประมาณ 0.50% ซึ่งจะทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคปรับลดลงเล็กน้อย แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบมาก เนื่องจากดอกเบี้ยในปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม หากผู้บริโภคซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงนี้จะยังได้รับ ประโยชน์สูงสุด ทั้งในเรื่องราคาและโปรโมชัน เพราะทุกสถาบันการเงินต่างตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นในปีนี้ จึงมีการเจรจากับผู้ประกอบการที่เตรียมโอน โดยเสนอเงื่อนไขพิเศษ ซึ่งผู้ประกอบการก็ให้การตอบรับดี

"ขณะนี้บริษัทฯมีที่ดินรองรับการเปิดโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยเบื้องต้นจะพัฒนา 3 โครงการ มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 โครงการแนวราบในทำเลกรุงเทพฯ โซนเหนือและโซนตะวันตก ส่วนอีก 1 โครงการเป็นคอนโดฯที่พัทยาซึ่งพัฒนาบนที่ดินเดิมทั้งหมด โดยจะเปิดตัวในครึ่งปีหลังทั้งหมด แต่หากสถานการณ์ต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงมีแนวโน้มเติบโตขึ้น บริษัทฯก็พร้อมที่จะพัฒนาโครงการเพิ่มทันที ซึ่งจะมีการพิจารณาอีกครั้งในช่วงกลางปีนี้"

ในปี 2561 นี้บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายที่ 2,700 ล้านบาท จากปี 2560 ที่มียอดขาย 2,400 ล้านบาท วางเป้ายอดรับรู้รายได้ 1,700 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีตัวเลขอยู่ที่ 1,400 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทฯมียอดขายรอโอน (Backlog) ประมาณ 200-300 ล้านบาทและมีสินค้าพร้อมขายในปีนี้ 11 โครงการ มูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดฯ 3 โครงการ และแนวราบ 3 โครงการ มีสต๊อกบ้านสร้างเสร็จพร้อมโอนปีนี้ประมาณ 600 ล้านบาท

สำหรับตลาดแนวราบในปีนี้มองว่ายังไปได้อยู่ โดยทาวน์เฮาส์ ราคาอยู่ที่ 2-4 ล้านบาท บ้านแฝดราคา 4 ล้านบาทขึ้นไปยังได้รับการตอบรับดี โดยเฉพาะบ้านแฝดที่มาแรงขณะนี้ เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้สามารถทำได้บนพื้นที่ต่ำกว่า 50 ตารางวา ทำให้ผู้บริโภคสามารถจับต้องได้

ปัจจุบันมีอัตราการถูกปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารพาณิชย์อยู่ในระดับสูงที่ 30% แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมลูกค้าหรือตรวจสอบคุณสมบัติผู้กู้ เพื่อขออนุมัติสินเชื่อไว้ล่วงหน้า เพื่อที่จะสามารถลดปัญหาการปฏิเสธสินเชื่อ