RICHY ใส่เกียร์เปิดโครงการใหม่ราว 7 พันล้านบาท ปั๊ม Backlog เพิ่ม จากเดิมราว 4.01 พันล้านบาท กินยาวปีหน้า แถมเร่งรัดเข็มขัดเต็มพิกัด หวังลดต้นทุนดันมาร์จิ้นทะลุ 10% ส่วนปีนี้ย้ำเป้ารายได้แตะ 3 พันล้านบาท โครงการเรียงคิวรอบุ๊กอื้อ

นางสาวศรัณย์ธร ศรีสุนทร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ RICHY เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ในปี 2561 ทั้งหมด 4 โครงการ มูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการเดอะริช ศรีนครินทร์ มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท (คาดจะเริ่มเปิดการขายได้ในช่วงไตรมาสที่ 2/61), โครงการเดอะริช เอกมัย มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท (คาดว่าจะสรุปได้ในช่วงปลายปีนี้) นอกจากนี้ยังมี 2 โครงการใหม่ที่อยู่ระหว่างการเตรียม พัฒนาในเขตเมืองทั้งหมดคาดว่าจะสรุปได้ในช่วงไตรมาสที่ 3-4/2561 แบ่งเป็นโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม Low Rise เพื่อสร้างเสริมรายรับในอนาคต

คุมเข้มต้นทุนดันมาร์จิ้น

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายที่รอโอน (Backlog) อยู่ที่ราว 4.01 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ราว 50% คงจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ และที่เหลือคงทยอยต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า

นอกจากนี้ บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์การบริหารในปี 2561 โดยหันมุ่งให้ความสำคัญทั้งในส่วนการลดต้นทุนด้านการส่งเสริมการตลาด (มาร์เก็ตติ้ง) ได้แก่ หันไปโฆษณาทางออนไลน์มากขึ้น เพราะเข้าถึงกลุ่มค้าได้มากกว่า เช่น facebook, เว็บไซต์ต่างๆ ประกอบกับจะมีเน้นควบคุมต้นภายในให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งหากทุกอย่างเป็นตามที่วางไว้เชื่อคงสนับสนุนให้อัตรากำไรสุทธิ (มาร์จิ้น) ปรับตัวสูงขึ้น จากปีก่อนที่ราว 10%

อัดงบช็อปที่เพิ่ม

ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดิน ย่านลาดพร้าวและราชพฤกษ์ ซึ่งมีโอกาสที่จะเปิดโครงการที่ 5 เป็นโครงการแนวราบ ปัจจุบันระหว่างการพิจารณาความเป็นไปได้ หวังสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคตต่อไป ซึ่งในส่วนนี้บริษัทวางงบไว้ราว 1 พันล้านบาท รวมถึงมีแผนการชำระหนี้หุ้นกู้ปี 2561 ราว 500 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทเหลือชำระหนี้หุ้นกู้อีกเพียง 700 ล้านบาท

ด้านบทวิเคราะห์ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ระบุว่า ผู้บริหาร บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ RICHY คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2561 เติบโต 138% จากปี 2560 เป็น 321 ล้านบาท และทำสถิติสูงสุดใหม่ เนื่องจากจะมีโครงการคอนโดใหม่ขนาดใหญ่เริ่มโอนได้ตั้งแต่ปลายไตรมาส 1/2561 คือ ริชพาร์ค@ทริปเปิ้ลสเตชั่น ถนนศรีนครินทร์ ซึ่งมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ถึง 2.3 พันล้านบาท

พร้อมกันนี้ ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่าจะมีการโอนเดอะริช สาทรตากสิน และโครงการต่อเนื่องยังผลให้รายได้ปี 2561 สูงไปถึง 2.8 พันล้านบาท (ต่ำกว่าบริษัทที่ตั้งเป้า 3 พันล้านบาท) เพิ่มขึ้น 78% จากปีก่อน ด้านคาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เป็น 0.26 บาท เพิ่ม 84% จากปีก่อน ซึ่งเติบโตน้อยกว่าจำนวนกำไรสุทธิ เพราะได้สมมติให้มีการแปลง RICHY-W1 เข้ามาทั้งหมด (Fully Diluted) จำนวน 157 ล้านหุ้น แม้ความจริงจะหมดอายุปี 2562 ก็ตาม

อนาคตไกล 2.30 บ.

ดังนั้น จากปัจจัยดังกล่าว ประกอบกับแนวโน้มอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) มีทิศทางที่ลดลง จากเดิมที่กว่า 1.9 เท่า เพราะมีคอนโดมีรอโอนเป็นจำนวนมาก จึงประเมินราคาเป้าหมายไว้ที่ 2.30 บาท รวมทั้งมองเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน