"พฤกษา โฮลดิ้ง" ปรับแผน ดัน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก โฟกัสเฉพาะกลุ่มมากขึ้น เร่งหาวิธีเจาะกลุ่มสตาร์ทอัพซื้อบ้านเพิ่มหนุนรายได้ทั้งปีทะลุ 5 หมื่นล้านบาท พร้อมอัดงบซื้อที่ดินรับการเติบโต 2 ปีข้างหน้า

นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใหม่ โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มย่อย เพื่อให้จับตลาดได้ดีขึ้น ในปีนี้ตั้งเป้าหมายมียอดขายพรีเซล ที่ 53,742 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 13.1% "แผนธุรกิจในปีนี้เราจะจัดกลุ่มธุรกิจเป็น 3 กลุ่มเพื่อให้โฟกัสการทำตลาดได้ดีขึ้น แบ่งเป็นกลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม กลุ่มทาวน์เฮ้าส์ และกลุ่มพรีเมียม ซึ่งจะมีซีอีโอในแต่ละกลุ่มจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงาน"

การเติบโตปีนี้เน้นใน 5 กลยุทธ์หลักคือ การครองความเป็นผู้นำกลุ่มทาวน์เฮ้าส์ กลุ่ม 2-3 ล้านบาทและขยับขึ้นไปแข่งขันกลุ่ม 4-5 ล้านบาทมากขึ้น คงพอร์ตการเติบโตธุรกิจคอนโดมิเนียม พร้อมบุกต่างจังหวัดกลุ่มที่มีการเติบโตดี โดยเฉพาะจังหวัดที่เกี่ยวข้องกับระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี รวมถึงเขตโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้น รวมถึงการหาแนวทางการปรับลดยอดการปฏิเสธสินเชื่อให้ปรับลดลงจากปัจจุบันที่ระดับ 7 % หรือมูลค่า 3 -3.5 พันล้านบาท โดยจะทำงานร่วมกับสถาบันการเงิน เพื่อหาแนวทางการปรับลดการปฏิเสธสินเชื่อ และหาวิธีการให้กลุ่มเอสเอ็มอีและกลุ่มสตาร์ทอัพ สามารถเข้าถึงการมีบ้านได้ง่ายมากขึ้น ด้านการขายโครงการจากต้นปีที่ผ่านมา พบว่ามียอดพรีเซล ทั้งสิ้น 3.7 พันล้านบาท ซึ่งทิศทางเติบโตได้ดีกว่าปีก่อน ทั้งนี้บริษัทได้มีการเปิดโครงการใหม่จากต้นปีไปแล้ว 6 โครงการแบ่งเป็น โครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการ ทาวน์เฮ้าส์ 3 โครงการและ บ้านเดี่ยว 2 โครงการโดยคอนโดมิเนียมนั้น ขายพรีเซลหมดภายในวันเดียว

อย่างไรก็ตามเป้าหมายผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทต้องการมีรายได้ 50,500 ล้านบาท และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่13 % โดยจะมีการเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 75 โครงการ มูลค่ารวม 6.67 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 56 โครงการ มูลค่ารวม 5.92 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ปัจจุบันมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ 2.7 หมื่นล้านบาท โดยจะรับรู้ในปีนี้ 1.48 หมื่นล้านบาท สำหรับโครงการทั้งหมดที่บริษัทมีทั้งสิ้น 181 โครงการ โดยมียูนิตที่รอการขายทั้งสิ้น 9.93 หมื่นล้านบาท มีโครงการที่พัฒนาและพร้อมขาย 1.6 หมื่นล้านบาท

สำหรับแผนการซื้อที่ดินในปีนี้ บริษัทวางเป้าหมายจะซื้อที่ดินทั้งสิ้น 1.6 หมื่นล้านบาทเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในอีก 2 ปีข้างหน้า นอกจากนี้มีแผนจะออกหุ้นกู้มูลค่า 5-6 พันล้านบาท เพื่อชดเชยหุ้นกู้ที่ครบอายุ