แสนสิริ เบรกเสนอราคาซื้อขายทั้งโครงการนิมิตหลังสวน และ 53 ห้องชุดในโครงการมหานคร เหตุไม่รับ ข้อมูลที่เพียงพอต่อการตัดสินใจ พร้อมรับเงินมัดจำคืนเต็มจำนวน ด้าน "สมัชชา พรหมศิริ" ชูกลยุทธ์ Personalized CRM" ลงลึกเจาะลูกค้ารายบุคคล พร้อมตั้งทีม RM รอรับริการ ผู้ช่วยบริการ อสังหาฯ ส่วนตัว หรือ "SIRI Priority" เจาะกลุ่มลูกค้านักลงทุน

นายวันจักร์ บุรณศิริ กรรมการและประธานผู้บริหาร สายงานการเงินและสนับ สนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กล่าวถึงความคืบหน้าการเสนอ ราคาเพื่อซื้อทรัพย์สินตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อการซื้อขายโครงการนิมิตหลังสวนทั้งโครงการ และห้องชุดที่พักอาศัยในโครงการเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก จำนวน 53 ห้องชุด ในโครงการอาคารชุดมหานครกับกลุ่มบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ว่า

"ตามที่บริษัทได้รายงานต่อตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้ขยายระยะเวลาการตรวจสอบทรัพย์สินที่จะซื้อขาย (Due Dillgence) จนถึงวันที่ 5 ก.พ. 61นั้น บริษัทไม่ได้รับข้อมูลบางรายการที่เพียงพอต่อการพิจารณาราคาซื้อขาย และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องสำหรับตัดสินใจอย่างเหมาะสม และไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการขยายระยะเวลาได้ ดังนั้นแสนสิริ จึงได้แจ้งต่อกลุ่มบริษัทเพซ ยกเลิกการเสนอราคาเพื่อซื้อทรัพย์สิน ดังกล่าวแล้ว โดยผลของการดำเนินการดังกล่าว บริษัทจะได้รับเงินมัดจำจำนวน 322,823,805 บาท คืนเต็มจำนวน" 'แสนสิริ'ชูCRM เจาะไลฟ์สไตล์ลูกค้า

นายสมัชชา พรหมศิริ ผู้ช่วยกรรม- การผู้จัดการ ฝ่ายสื่อสารองค์กร และดิจิตอล มาร์เก็ตติง บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มลูกค้านักลงทุนกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มลูกค้าที่มีความสำคัญต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่CRM หรือ กิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ที่แสนสิริดำเนินการ มา 35 ปีอย่างต่อเนื่อง จน 5-6 ปีที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มลูกค้าศักยภาพสูงของบริษัท คือ กลุ่มลูกค้านักลงทุนจะมีธุรกรรมการโอนค่อนข้างสูงขั้นต่ำประมาณ 80 ล้านบาท

ในอดีตกลุ่มนี้ลงทุนในที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว ต่อมาในช่วง 5-6 ปีก่อนหน้าลงทุนที่อยู่อาศัยคอนโดมิเนียมมากขึ้น ปัจจุบันคอนโดฯ กลายเป็นกลุ่มสินค้าหลักที่นักลงทุนนิยม และมีแนวโน้ม ขยายตัวเพิ่มขึ้น ทั้งในกลุ่มนักลงทุนคนไทยและต่างชาติ ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าที่ซื้อ เพื่อการลงทุนในปัจจุบันของแสนสิริมีจำนวน 150 ราย โดยซื้อลงทุนมี 2 รูปแบบ คือ กลุ่มซื้อเพื่อขายต่อทำกำไร 50% และกลุ่มลูกค้าที่ซื้ออสังหาฯเพื่อลงทุนปล่อยเช่า 50% ซึ่งกลุ่มนี้จะนิยมซื้อห้องชุดในทำเลสุขุมวิท โดยเฉพาะย่านอโศกและทองหล่อ

"สำหรับลูกค้ากลุ่มนักลงทุนที่มีการซื้อที่อยู่อาศัยแสนสิริเพื่อการลงทุน พบมียอดซื้อสะสมเป็นมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท ส่วนมากเป็นลูกค้าคนไทยอายุตั้งแต่ 27 ปีขึ้นไป จะมียอดโอนขั้นต่ำประมาณ 80ล้านบาทขึ้นไป และลูกค้านักลงทุนบางรายที่อยู่กับแสนสิริมานานกว่า17ปี มียอดซื้อสะสมมากกว่า 1,000 ล้านบาท"

จากแนวโน้มดังกล่าว ทำให้แสนสิริ เห็นถึงความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย มีความแตกต่างและมีความเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น จึงเป็นที่มาของกลยุทธ์ Personalized CRMที่เพิ่มมิติด้านการบริการเจาะลึกไปยังความต้องการในระดับบุคคล ระยะแรกนำร่องบริการ "Siri Priority" ด้วยบริการผู้ช่วยบริหารอสังหาริมทรัพย์ส่วนตัว หรือ RM (Relationship Manager) ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่พร้อมทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัว แนะนำและดูแล การบริหารอสังหาริมทรัพย์สำหรับลูกค้าเป็นรายบุคคล โดยทีม RM มีจำนวน 30 คน เพื่อดูแลลูกค้านักลงทุนที่ขณะนี้มีอยู่ 150 ราย ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจหรือประกอบ กิจการส่วนตัวมุ่งตอบความต้องการอยู่อาศัยและการลงทุน ที่พร้อมให้คำปรึกษาอย่างเจาะลึก เพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุนให้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น ทั้งยังนำเสนอข้อมูลเชิงลึกในด้านต่างๆ