อสังหาฯนนท์วิ่งตีนพลิก จี้ปลดล็อกผังใหม่-แห่ขออนุญาตบ้าน-คอนโดฯ
Loading

อสังหาฯนนท์วิ่งตีนพลิก จี้ปลดล็อกผังใหม่-แห่ขออนุญาตบ้าน-คอนโดฯ

วันที่ : 3 ธันวาคม 2560
อสังหาฯนนท์วิ่งตีนพลิก จี้ปลดล็อกผังใหม่-แห่ขออนุญาตบ้าน-คอนโดฯ

ดีเวลอปเปอร์วิ่งตีนพลิก แห่ขออนุญาตบ้านคอนโดฯ ก่อนผังเมืองนนท์ใหม่ประกาศใช้ ด้านเอกชน 30 บริษัทยื่นค้านแหลกปลดล็อกกฎเหล็ก

นายเลิศมงคล  วราเว ณุชย์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดนนทบุรีเปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ขณะนี้สมาคม และ 30 บริษัทพัฒนาที่ดินในจังหวัดนนทบุรี ได้ยื่นคัดค้านกฎกระทรวงผังเมืองรวมจังหวัดนนทบุรี พ.ศ. ..ที่อยู่ระหว่างปิดประกาศ 90 วัน ซึ่งวันที่ 16 มกราคม 2561 จะเป็นวันสุดท้ายของการรับเรื่องร้องเรียน

และประมาณปลายเดือนธันวาคมนี้ สมาคมจะยื่นหนังสือคัดค้านไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี (อบจ.นนทบุรี) และสำนักผังเมืองจังหวัดนนทบุรี เพื่อขอปรับข้อกำหนดให้สะท้อนกับความเป็นจริง คือสามารถพัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรในซอยกว้าง 5-7 เมตรได้และผ่อนปรนสร้างทาวน์เฮาส์ในพื้นที่ สีเขียว (ที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม) เหมือนที่ผ่านมาได้

หากไม่สามารถผ่อนปรนได้สมาคมจะยื่นหนังสือไปยังกรมโยธาธิการและผังเมืองลำดับต่อไป เนื่องจากผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ เท่ากับเป็นการคุมกำเนิดที่อยู่อาศัยระดับกลางล่างไม่ให้เกิดขึ้นสวนทางกับกำลัง ซื้อในพื้นที่ ส่งผลให้ขณะนี้ผู้ประกอบการต่างวิ่งขาขวิดยื่นขออนุญาตจัดสรรและขออนุญาตก่อสร้างคอนโดมิเนียมทิ้งไว้ หากใครมีบ้านรอการขาย จากการขยายเฟสจะได้รับอานิสงส์และอาจฉวยโอกาสปรับราคา รวมทั้งคอนโดมิเนียมที่เหลือขายกว่า 10,000 หน่วยเกาะแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ขายช้า อนาคตจะกลายเป็นดี เพราะต่อไป จะหาสินค้าราคาถูกแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว ดังนั้นอีก 6 เดือนนับจากนี้ ก่อนที่ผังใหม่จะประกาศใช้ปี 2561 เป็นนาทีทองที่ผู้ประกอบการต้องรีบยื่นขออนุญาตดังกล่าว

สำหรับข้อกำหนดผังเมืองรวมจังหวัดนนทบุรีใหม่ คือ 1.พื้นที่สีเขียว หรือที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม กว่าครึ่งจังหวัด สามารถพัฒนาได้เฉพาะบ้านเดี่ยว 50 ตารางวาขึ้นไป และบ้านแฝดขนาด 35 ตารางวาขึ้นไป และต้องอยู่ติดกับถนนสาธารณะกว้าง 12 และ 4 เมตรและมีเงื่อนไขว่าขนาดต้องมีความกว้างเท่ากันตั้งแต่ต้นซอยถึงท้ายซอย  แยกเป็นพื้นที่สีเขียวประเภท ก.2 แปลงที่ดินติดถนนกว้าง 12 เมตร ส่วนพื้นที่สีเขียวประเภท ก.3 ถนนต้องกว้าง 14 เมตร จากเดิมพัฒนาได้ทุกที่ทั้งจังหวัด ทั้ง ทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยว

พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอาทิ บางกรวย ไทรน้อย บางเลน ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ถนนสาย 345 ถ่อนถึงปทุมธานี อย่างไรก็ดีถนนที่มีความกว้าง 12 และ 14 เมตร ต้องเป็นถนนสายหลัก เช่น ถนนราชพฤกษ์ ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งราคาที่ดินตารางวาละ  1 แสนบาท เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงและห้างเซ็นทรัลเวสต์เกตเกิดขึ้น หากพัฒนาบ้านเดี่ยวบ้านที่สร้างขาย ที่ดินตารางวาละ 50,000 บาท บ้านจะขายที่ราคา 20-40  ล้านหากที่ดินตารางวาละ 1 แสนบาท บ้านจะราคาอยู่ที่ 40-50 ล้านบาท เดิมซอยกว้าง 6 เมตรก็สร้างบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ได้ ราคาที่ดินเฉลี่ยไร่ละ 5 ล้านบาท ราคาขายต่อหน่วย 3-5 ล้านบาท

2. พื้นที่สีเหลือง (ประเภทอยู่อาศัยหนาแน่นน้อย) (ดูผังประกอบ) ถัดเข้ามาเกือบถึงตัวเมือง แต่ยังไม่ข้ามแม่น้าเจ้าพระยาสามารถพัฒนาทาวน์เฮาส์ได้ แต่ต้องอยู่ติดถนนกว้าง 12 เมตรแต่หาก ไม่มีข้อจำกัดความกว้างของถนนเข้ามาเกี่ยวข้องสามารถทำบ้านจัดสรรทาวน์เฮาส์ในพื้นที่สีส้ม (ที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง) สีน้าตาล (ที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก) พื้นที่สีแดง (ที่ดินประเภทพาณิชยกรรม) พัฒนาทาวน์เฮาส์ได้ทุกพื้นที่ ซึ่งจะ อยู่ทำเล เกาะแนวรถไฟฟ้า ห้าแยกปากเกร็ด แยกติวานนท์ ตัดแจ้งวัฒนะรัตนาธิเบศร์ กรุงเทพ-นนท์ ซึ่งราคาที่ดินพื้นที่สีน้ำตาล เข้าซอยราคา 1.5 แสนบาทต่อตารางวา ขณะที่พื้นที่สีแดง ราคา กว่า 3 แสนบาทต่อตารางวา ทั้งนี้หากพัฒนาทาวน์เฮาส์ ราคาจะอยู่ที่ 10-20 ล้านบาท จาก 2 ล้านบาทต่อหน่วย

ส่วนคอนโดมิเนียมเกิน 10,000 ตารางเมตรจะต้องสร้างติดถนน 14 เมตรและสถานีรถไฟฟ้าไม่เกิน 500 เมตร จากเดิมขนาดไม่เกิน 10,000 ตารางเมตร ไม่เกิน 8 ชั้นสร้างในซอยได้นอกจากนี้ยังปรับเรื่องขนาดที่จอดรถ เหมือนกทม.คือจาก 240 ตารางเมตร เป็น 120 ตารางเมตรทำให้พื้นที่ขายหายไป 20 ตารางเมตร หรือเฉลี่ย 1 ล้านบาท ต้นทุนเพิ่มขึ้น 4 แสนบาท

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ข่าวกฎหมายอสังหาฯ อื่นๆ