จากการรวบรวมผล การดำเนินของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนถึงอัตราการขยายตัว ของตลาดอสังหาฯ ในปี 2560 นี้ ยังมีอัตราการขยายตัวระดับเดียวกับปีก่อนหน้า โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/60 นี้ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH และบริษัทย่อย มีรายได้รวม 9,190 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,922 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 46.6% จากไตรมาส 3/59 ซึ่งมี รายได้ รวม 6,268 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 3,125.37 ล้านบาท

โดยเป็นผลมาจากยอดขาย การรับรู้ รายได้จากการโอนคอนโดมิเนียมที่เพิ่ม ขึ้นจาก 11% ในปีที่แล้วมากอยู่ที่ 37% นอกจากนี้ ยังมีกำไรจากการเปลี่ยนแปลง ส่วนของผู้ถือหุ้นในบริษัทร่วม 1,135 ล้านบาท ซึ่งมาจากสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท แอลเอชไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ (LHBANK) ที่ลดลงจาก 33.98% เหลือ 21.88% จากการที่ LHBANK ขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับ CTBC BANK COMPANY LIMITED

ขณะที่ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH มีรายได้รวมในไตรมาส 3/60 ที่ 5,920 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,370 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกัน ของ ปีที่แล้ว ซึ่งมีรายได้รวม 4,550 ล้าน บาท และมีกำไรสุทธิในไตรมาส 3/60 นี้ 1,127.79 ล้านบาท เติบโตจากไตรมาส 3/59 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 768.74 ล้านบาท กว่า 47% ขณะรายได้สะสม 9 เดือนของปีนี้มี จำนวน 13,906 ล้านบาท ลดลง 1,420 ล้านบาท หรือ 9% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวม 15,326 ล้านบาท

โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้ของ QH ยังคงมาจากรายได้จากการขายคอนโดมิเนียม ซึ่งเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ 642 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 186% เนื่องจากในไตรมาส 3 ของ ปี 2560 บริษัทย่อยได้เปิดโอนโครงการ เดอะทรัสต์ คอนโด แอท บีทีเอส เอราวัณ ในขณะที่รายได้จากการขายบ้านพร้อมที่ดินสำหรับไตรมาส 3 ของปี 2560 ลดลง 38 ล้านบาท หรือลดลง 1%

ส่วนบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH ในไตรมาสนี้ มียอดขายรวม 11,918 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 3/59 ซึ่งมียอดขายรวม 13,027 ล้านบาท กว่า 1,109 ล้านบาทหรือลดลง 8.5% และ มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3/60 ที่ 1,290.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 59 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 908.92 ล้านบาท

สำหรับยอดขายงวด 9 เดือนของปี 60 เท่ากับ 38,067 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 3,405 ล้านบาท หรือเพิ่มขื้น 9.8% เมื่อเทียบกับ งวด 9 เดือนของปี 59 โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,716.08 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกัน ของปี 59 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 3,982.15 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา พฤกษาฯ มี ยอดรับรู้รายได้ในกลุ่มบ้านเดี่ยวลดลงกว่า 764 ล้านบาทหรือลดลง 28% ขณะเดียวกัน การรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดฯ ยัง ปรับลดลงกว่า 436 ล้านบาท หรือลดลง 8.4%

ขณะที่ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) นั้นในไตรมาส 3/60 นี้ โดดเด่นทั้งด้าน รายได้และยอดขายโดย ในไตรมาสนี้ ศุภาลัยฯ มีรายได้รวม 8,187.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/59 ที่มีรายได้รวม 4,646.82 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 76% และมีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ที่ 2,094.32 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 847.80 ล้านบาทกว่า 147% ขณะที่ผลการดำเนิน งานสะสม ณ 9 เดือนของศุภาลัยฯ มีรายได้รวมที่ 18,070.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/59 ซึ่งมีรายได้รวม 17,295.47 ล้านบาท 4% และมีกำไรสุทธิสะสม 9 เดือนที่ 4,109.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/59 ซึ่งมีกำไรสะสม 3,679.65 ล้านบาท 570ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักจากรายได้ จากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาฯ บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ ที่เพิ่มขึ้นกว่า 47% จากปี ก่อนหน้ากว่าเท่าตัวมาอยู่ที่ 7,546.51 ล้านบาท โดยรายได้ 9 เดือนของไตรมาส 3/59 อยู่ที 3,055.39 ล้านบาท

ด้าน บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF ในไตรมาส 3/60 นี้ มีรายได้รวม 3,699.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/59 ซึ่งมีรายได้รมที่ 3,062.3 ล้านบาท กว่า20.8% หรือมีรายได้รวม เพิ่มขึ้น 637.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 126.68 ล้านบาท เพิ่มจากไตรมาส 3/59 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 68.74 ล้านบาท กว่า 57.94 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิของ งวด 9เ ดือนที่ 142.32 ล้านบาทลดลงจาก ช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไร 414.46 ล้านบาท

สำหรับปัจจัยที่ทำให้ในไตรมาส 3/60 นี้ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคฯ มีรายได้และ กำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากมียอดขายในกลุ่ม บ้านเดี่ยวที่เพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อนหน้าโดย ในไตรมาสนี้สามารถสร้างยอดขายบ้านได้ กว่า 2,268.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 693.1 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นกว่า 44% ขณะเดียวกันก็มีการรับรู้รายได้ในสวนของคอนโดมิเนียม ที่เพิ่มมากขึ้นจาก 14 โครงการเดิมและมี รายได้จากกลุ่มบ้านเดี่ยว 2 โครงการใหม่เข้ามาทำให้มีรายได้รับรู้เข้ามามากกว่าใน ช่วงเดียวกันของปี 59 ประกอบกับมีรายได้จากการขายที่ดินเพิ่มอีก  101.6 ล้านบาททำให้ในไตรมาสนี้มีกำไรเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนกว่าครึ่ง

ด้านบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ในไตรมาสที่ 3 นี้ สามารถสร้างยอดขายได้ 9,645 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่วางไว้ที่ 6,350 ล้านบาท 52% เนื่องจากความต้องการซื้อจากลูกค้าที่ดีกว่าคาด และจากการเลื่อนเปิดโครงการใหม่เร็ว กว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในช่วงต้นปี มูลค่ากว่า 4,435 ล้านบาท ทั้งนี้ ในครึ่งปีแรก บริษัทฯ สร้างยอดขายได้ 77% ของเป้ายอดขายทั้งปีและมีแผนเปิดโครงการใหม่อีก 2 โครงการโดยผลจากความสำเร็จดังกล่าวมาจากตัวโครงการอยู่ในทำเลติดรถไฟฟ้าสะดวกในการอยู่อาศัย มีการนำเอาเทคโนโลยีมาปรับใช้ในโครงการ และราคาที่เหมาะสมสามารถจับต้องได้

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 1,692 ล้านบาท ลดลง 28% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่บริษัทฯ มีรายได้อื่นจำนวนกว่า 1,066 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากรายได้จากโครงการร่วมทุน ทำให้บริษัทฯ สร้างรายได้รวมจำนวน 2,759 ล้านบาท ลดลง 7% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 141 ล้านบาท ลดลง 44% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่มาจาก รายได้ที่ลดลง และการเปิดโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้น