โชคชัย สีนิลแท้

อสังหาผุดเมืองไฮเทครับยุคขาดแคลนแรงงาน

จากนโยบายการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศสู่แนวคิดการพัฒนาบนพื้นฐานความรู้และการสร้างนวัตกรรมหรือแนวคิดไทยแลนด์ 4.0 เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนากำลังติดบ่วงประเทศกำลังพัฒนาที่มีรายได้ปานกลางมาอย่างยาวนานและไม่สามารถเพิ่มรายได้เฉลี่ยของประชากรให้สูงขึ้น ตามเป้าหมายที่วางไว้ การพัฒนาเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่ จึงต้องเน้นไปที่อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการแข่งขัน โดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยี

หากพูดถึงเทคโนโลยีกับอสังหา ริมทรัพย์ ที่ผ่านมาจะอยู่ในส่วนของการก่อสร้างเป็นหลัก ส่วนการบริการจัดการที่อยู่อาศัยจะยังมีไม่มากแต่ปัจจุบันเริ่มเห็นการนำเทคโนโลยีมาใส่ในการอยู่อาศัย ซึ่งจะได้ยินคำว่าพร็อพเทคเพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัย

ปัจจุบันเทคโนโลยีดังกล่าวยังคงอยู่ในโครงการที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์เป็น หลักแต่ในอนาคตเทคโนโลยีเหล่านี้ จะกลายเป็นพื้นฐานที่โครงการที่อยู่อาศัยต้องมี ไม่ใช่แค่สิ่งที่เสริมเพิ่มเติมเข้ามา ซึ่งก็จะเป็นประโยชน์กับผู้อยู่อาศัย แต่แน่นอนว่าผู้บริโภคก็ต้องเรียนรู้ถึงต้นทุนในการอยู่อาศัยที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้

ผู้ประกอบการหลายค่าย เริ่มพูดเรื่องเทรนด์ IoT (Internet of Things) ในโครงการที่อยู่อาศัย ซึ่ง IoT คือ สิ่งต่างๆ ถูกเชื่อมโยงทุกสิ่งทุกอย่างสู่โลกอินเทอร์เน็ต ทำให้สั่งการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ แต่การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อตอบโจทย์ เรื่องแรงงานขาดแคลน เป็นหลักไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องลดต้นทุน ดังนั้นแนวโน้มของการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ ก็อาจทำให้มีต้นทุนในการใช้ชีวิตมากขึ้น หากเป็นคอนโดก็ค่าส่วนกลางเพิ่มขึ้น แต่ก็ทดแทนการใช้คน เพราะคนในภาคบริการนั้นเริ่มหายาก

เห็นได้ชัดจากค่ายแสนสิริได้ร่วมกับพันธมิตรทั้งในประเทศและระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจสตาร์ทอัพ มาอำนวยความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย เริ่มจากการใช้โฮมเซอร์วิส แอพพลิเคชั่นสำหรับลูกบ้านที่ช่วยในการติดตามข่าวสารและการติดต่อกับโครงการและนิติบุคคลได้ง่าย ทั้งด้านการติดตามข่าวสารจากโครงการ การส่งข้อความติดต่อกับนิติบุคคล ระบบการแจ้งเตือนเมื่อมีพัสดุส่งถึงเจ้าของห้อง การบริหารจัดการค่าส่วนกลาง ทั้งค่าเงินฝากและยอดเงินค้างชำระ รวมถึงการแจ้งซ่อมและการตรวจสอบสถานะการแจ้งซ่อม ระบบดังกล่าวยังเชื่อมโยงกับโฮมออโตเมชั่น ซึ่งสามารถควบคุมการเปิดปิดไฟ รวมถึงเครื่องปรับอากาศผ่านทางแอพพลิเคชั่น

นอกจากนี้ ยังได้พัฒนา "แสนดี" หุ่นยนต์อำนวยความสะดวกบริการส่งพัสดุถึงหน้าประตูลูกบ้าน ซึ่งช่วยยกระดับความปลอดภัยของลูกบ้านด้วยการป้องกันคนแปลกหน้าเดินขึ้นไปส่งของโดยตรง พัสดุที่ส่งมาถึงโครงการจะถูกบันทึก เข้าสู่ระบบและแจ้งเตือนลูกบ้านผ่าน แสนสิริ โฮมเซอร์วิส แอพพลิเคชั่น ซึ่ง ลูกบ้านสามารถแจ้งความจำนงให้หุ่นยนต์นำพัสดุต่างๆ ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่มาพร้อมระบบการนำทางหลบหลีกสิ่งกีดขวางและสามารถขึ้นลิฟต์ด้วยตัวเองได้ โดยมีความเร็วสูง ที่ 1.5 เมตร/วินาทีสามารถรับน้ำหนักได้สูงสุด 80 กิโลกรัม (กก.)

ขณะเดียวกันยังได้พัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์หรือแสนสิริ เอไอ บล็อก ที่สามารถรับการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย ที่แสนสิริพัฒนาร่วมกับบริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) และบริษัท เดลิเทค โดยระบบแสนสิริ เอไอบล็อกเชื่อมต่อกับระบบโฮม ออโตเมชั่น ซึ่งเป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวที่สั่งงานด้วยเสียง

การพัฒนาแพลตฟอร์มสมาร์ทมูฟ หรือบริการเช่ายานพาหนะในโครงการเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานโดยมีรถยนต์ที่ควบคุมและใช้พลังงานไฟฟ้า 100% สำหรับคาร์แชริ่ง ให้ลูกบ้านได้เช่าและคิดค่าบริการจริงเป็นนาที พร้อมเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า นวัตกรรมฟาร์มปลูกผักแนวตั้งควบคุมผ่านแอพพลิเคชั่น ที่นิยมใช้ทั่วโลก และนวัตกรรม Wear able Device ในรูปแบบสายรัดข้อมือ ซึ่งร่วมมือกับโรงพยาบาลสมิติเวช ด้วยฟังก์ชั่นแจ้งเตือนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

ทางด้านบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ ได้ร่วมมือกับพันธมิตร ซีคสเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่มีแพลตฟอร์มในการให้บริการด้านความสะอาด และการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย เหล่านี้ถือเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อรับมือกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้น