นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการจัดงาน " Life. My Origin" ณ แฟชั่น ฮอลล์ และ รอยัล พารากอน ฮอลล์ 3 ที่ ศูนย์การค้าสยาม พารากอน เมื่อวันที่ 16-17 กันยายน ที่ผ่านมา โดยมีการนำ 4 โครงการใหม่และโครงการพร้อมอยู่ในมือรวมทั้งสิ้น 28 โครงการ จำนวนกว่า 8,000 ยูนิต มูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท ออกบูทพร้อมจัดแคมเปญส่วนลดและแคมเปญพิเศษแก่ลูกค้า ล่าสุด ผลหลังจบการจัดงาน บริษัทฯสามารถสร้างยอดขายจาก 4 โครงการใหม่ที่เปิดตัวพร้อมพรีเซลครั้งแรกในงานดังกล่าวแล้ว 5,000 ล้านบาท จากมูลค่า 4 โครงการรวมกว่า 7,400 ล้านบาท แบ่ง 3 โครงการคอนโดมิเนียมร่วมทุนกับ บริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด คือ โครงการ 1.ไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช 2.ไนท์บริดจ์ ไพร์ม รัชโยธิน 3.ไนท์บริดจ์ คอลลาจ รามคำแหง ส่วนอีก 1 โครงการใหม่ ซึ่งบริษัทลงทุนพัฒนาเอง 100% คือ โครงการ ไนท์บริดจ์ เกษตร โซไซตี้

สำหรบ โครงการร่วมทุนบริษัท โนมูระฯ ทั้ง 3 โครงการ มีมูลค่าโครงการรวม 6,100 ล้านบาท ถือ เป็นไฮไลต์ ของโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยโครงการที่มีมูลค่าโครงการมากที่สุด คือโครงการไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช  ซึ่งจะกลายเป็นแลนด์มาร์กที่ดีที่สุดในย่านอ่อนนุช เป็นคอนโดฯสูง 47 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 600 ยูนิต และ 1 รีเทล มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท พร้อมเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Fitted ในราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท

ด้านนายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ  บริษัท แสนสิริจำกัด (มหาชน) (SIRI) กล่าวว่า บริษัทสามารถสร้างยอดขายพรีเซล โครงการคอนโดมิเนียม "taka HAUS" (ทากะ เฮาส์) ซึ่งเป็นโครงการล่าสุดพัฒนาภายใต้บริษัท สิริ ทีเค วัน (Siri TK One Company Limited) ซึ่งเป็นบริษัทภายใต้ความร่วมมือระหว่าง บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และบริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประเทศญี่ปุ่น

โดยในช่วง Presale วันเสาร์-อาทิตย์ที่ 16-17 ก.ย.ที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายทะลุถึง 85% คิดเป็น 1,700 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวต่างชาติจากการโรดโชว์ Global Launch ที่ประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง จีน สิงคโปร์ และไต้หวัน โดยสร้างยอดจากขายได้กว่า 30% และบริษัทมีแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ เฮาส์ อีก 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 8,700 ล้านบาทในช่วงปลายปีนี้

"บริษัทสามารถปิดยอดขายโครงการ ทากะ เฮาส์ได้สูงเกินคาด ซึ่งเมื่อรวมกับยอดขายโครงการคอนโดมิเนียมของแสนสิริที่ทำ ได้แล้ว 12,000 ล้านบาททำให้บริษัทจะมียอดขายคอนโดมิเนียมรวมคิดเป็น 13,700 ล้าน บาท หรือมากกว่า 55% จากเป้าหมายยอดขายคอนโดมิเนียมที่วางไว้ 25,000 ล้านบาท และส่งผลให้แสนสิริมียอดขายรวม ณ ปัจจุบันแล้วถึง 23,000 ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่เติบโตเร็วมาก ดังนั้นจึงมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถทำยอดขายได้ตรงตามเป้าหมายใหม่ที่ตั้งไว้ในปีนี้ 40,000 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน"