“JSP” แย้มแนวโน้มงบครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งปีแรก จ่อบุ๊คโอนแบ็กล็อก 2,600 ล้านบาท เล็งเปิดขาย 5 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 5,238 ล้านบาท พร้อมเตรียมจัดงาน “JSP Outlet Grand Sale” ระบายสต๊อกในไตรมาส 4/60

นายธีระชาติ มโนธรรมรักษา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JSP เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้จะเติบโตกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่มีรายได้รวม 2,131.09 ล้านบาท จากการทยอยส่งมอบโครงการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทมียอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการแล้วประมาณ 430 ล้านบาท

โดยรายได้รวมในช่วงครึ่งปีแรกคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 50% ของเป้าหมายรายได้ปีนี้ที่ 5,000 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งเป้าหมายยอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการขั้นต่ำที่ประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อไตรมาส ซึ่งตั้งแต่ไตรมาส 4/59 บริษัทมียอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการสูงกว่า 1,000 ล้านบาท จากการปรับกลยุทธ์เน้นแนวราบมากขึ้น

ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทมียอดรอโอน (Backlog) ในมือ 3,700 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ประมาณ 2,600 ล้านบาท แบ่งเป็น จากโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 1,100 ล้านบาท และจากโครงการแนวราบประมาณ 1,500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือประมาณ 1,100 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ในปีถัดไป อย่างไรก็ตาม บริษัทจะมียอดขายเข้ามาทดแทนการรับรู้ Backlog อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 400-600 ล้านบาทต่อเดือน

ส่วนยอดขาย (Presale) ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัททำได้แล้วกว่า 2,600 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1,320 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ เจ แกรนด์ สาทร-กัลปพฤกษ์ และโครงการ เจซิตี้ ศรีราชา-อัสสัมชัญ และในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 5,238 ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายประมาณ 400-600 ล้านบาทต่อเดือน

ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทเตรียมแผนการจัดแคมเปญใหญ่ เพื่อระบายสต๊อกโครงการคอนโดมิเนียมที่ยังเหลือขาย ภายใต้ชื่องาน “JSP Outlet Grand Sale” ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงไตรมาส 4/60 โดยจะนำโครงการคอนโดมิเนียมที่เหลือขาย มูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท จำนวน 800 ยูนิต มาร่วมแคมเปญ และมอบส่วนลดต่างๆ

สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 5,238 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการบ้านเดี่ยว อ.บางเสร่ จ.ชลบุรี เฟสแรก มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท,

2.โครงการ J CITY แพรกษา เป็นโครงการทาวน์เฮาส์ บนที่ดิน 30 ไร่ รวมจำนวน 443 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,289 ล้านบาท

3.โครงการ J วิลล่า วงแหวน-บางใหญ่ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 2,152 ล้านบาท ซึ่งภายในโครงการจะประกอบด้วย บ้านแฝด และทาวน์โฮม ราคาขายเริ่มที่ 1.69–3.33 ล้านบาท 4.โครงการ เจ ซิตี้ รัตนาธิเบศร์-บางบัวทอง จำนวน 271 ยูนิต มูลค่า 760 ล้านบาท และ 5.โครงการ เจ แกรนด์ รังสิต ทาวโฮม 2 ชั้น จำนวน 159 ยูนิต มูลค่าโครงการ 529 ล้านบาท

ส่วนภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะมีแนวโน้มที่เติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะภาวะเศรษฐกิจเริ่มมีการฟื้นตัวได้ แม้ว่าจะยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน แต่ความมั่นใจของประชาชนกลับมาดีขึ้น และการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐจะเป็นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังให้ขยายตัวได้มากขึ้น และการเปิดโครงการใหม่ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ไทยจะเป็นการช่วยกระตุ้นตลาดให้คึกคักมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง