'เอพี ไทยแลนด์' เดินหน้าติดตั้งเครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ AED นำร่องใน 20 คอนโดฯก่อนต่อยอดครบ 40 โครงการกว่า 25,000 ครอบครัว "วิทการ จันทวิมล" เผยเป็นรายแรกในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จัดสรรพื้นที่คอนโดฯ เป็น "พื้นที่ช่วยชีวิต" รับมือภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันที่คร่าชีวิตคนไทยเป็นอันดับ 3 รองจากโรคมะเร็งและอุบัติเหตุ

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจคอนโดมิเนียมบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์สำหรับคนเมืองและคอนโดมิเนียมติดแนวรถไฟฟ้า เปิดเผยว่าเอพีได้ร่วมกับบริษัท สมาร์ท เซอร์วิส แอนด์ แมนเนจเมนท์ จำกัด บริษัทบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ในเครือเอพี จัดพื้นที่นำร่องใน 20 โครงการแรกและจะทำให้ครบทั้งสิ้นกว่า 40 โครงการ คิดเป็นผู้อยู่อาศัยกว่า 25,000 ครอบครัว รณรงค์ให้ร่วมกันส่งต่อความรู้ การกู้ชีพขั้นพื้นฐานก่อนส่งถึงมือแพทย์ สู่ประชาชน เพื่อให้ตระหนักและพร้อมรับมือเมื่อพบผู้ประสบภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันซึ่งคร่าชีวิตคนไทยได้ในทุกเพศ ทุกวัย ด้วยการเดินหน้าติดตั้งเครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ (AED)

ทั้งนี้ จากสถิติพบว่าภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันคือสาเหตุการเสียชีวิตสูงสุดอันดับที่ 3 รองจากมะเร็งและอุบัติเหตุ คร่าชีวิตคนไทยถึง 54,000 คนต่อปี (เฉลี่ยถึง 6 คนต่อชั่วโมง) โดยปัจจุบัน เอพีได้เริ่มทยอยติดตั้งเครื่อง ช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ AED ในคอนโดมิเนียมที่บริหารจัดการโดยทีมเอพีแล้ว เพื่อเป็นการต่อยอดแนวคิดในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพไปสู่การส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้เกิดขึ้นในสังคมเอพีและสังคมวงกว้าง

นายวิทการ กล่าวอีกว่า โครงการดังกล่าวนี้ ได้ร่วมกับพล.ต.ต.นายแพทย์โสภณ กฤษณะรังสรรค์ ประธานมูลนิธิสอนช่วยชีวิตและที่ปรึกษาคณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชีวิต สมาคมแพทย์ โรคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริษัทรักษาความปลอดภัยไทยซีคอม จำกัด รณรงค์ถ่ายทอดความรู้ การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (Basic Life Support-BLS) สู่สังคม และเอพียังได้มอบเครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ AED ให้กับ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค ท่าเรือสาทร และศูนย์ประสานงาน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เขตธนบุรี เพื่อติดตั้งเป็นสาธารณประโยชน์ในการช่วยกู้ชีพหากเกิดเหตุฉุกเฉิน

แนวคิดการติดตั้งเครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ AED ในโครงการของ เอพี นั้น ได้รับการถ่ายทอดมาจากพันธมิตรทางธุรกิจของเอพี คือ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นเครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ AED ถือเป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตพื้นฐานที่ติดตั้งในพื้นที่ ที่มีคนหนาแน่น ทั้งพื้นที่สาธารณะและพื้นที่อยู่อาศัย ซึ่งจากข้อมูลพบว่าประเทศญี่ปุ่นมีเครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ AED ติดตั้งมากที่สุดในโลกแล้วประมาณ 6 แสนกว่าเครื่องต่อจำนวนประชากร 127 ล้านคน

"ปัจจุบัน เอพีมีคอนโดฯที่สร้างเสร็จและบริหารจัดการโดยบริษัท สมาร์ท เซอร์วิส แอนด์ แมนเนจเมนท์ จำกัด บริษัทบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ในเครือเอพีอยู่รวมกว่า 40 โครงการ และราวกว่า 25,000 ครอบครัวที่เราดูแล เราจึงไม่ลังเลที่จะติดตั้งเครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ AED เพื่อให้ลูกบ้านรู้สึกอุ่นใจและมั่นใจในคุณภาพชีวิต โดยเราเดิน หน้าทยอยติดตั้งเครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ AED แล้ว และจะติดตั้งให้ครบทั้งหมดกว่า 40 โครงการโดยเร็วที่สุด และสำหรับคอนโดมิเนียมใหม่ที่กำลังจะก่อสร้างแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2560 นี้เป็นต้นไป บริษัทก็จะมีการจัดเตรียมพื้นที่สำหรับติดตั้งเครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ AED ไว้เช่นกัน" นายวิทการ กล่าว

สำหรับคอนโดมิเนียมกว่า 40 โครงการที่มีการติดตั้งเครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ AED นั้น จะมีเจ้าหน้าที่ภายใต้การดูแลของบริษัท สมาร์ท เซอร์วิส แอนด์ แมนเนจเมนท์ จำกัด รวมกว่า 300 คน ซึ่งผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (Basic Life Support) ที่ได้รับการรับรองจากบริษัทรักษาความปลอดภัย ไทยซีคอม และคณะกรรมการช่วยชีวิต สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่ง จะมีเจ้าหน้าที่ประจำการและพร้อมให้ความช่วยเหลือหากลูกบ้านของเอพีประสบภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันตลอด 24 ชม